เทคนิคพัฒนา Working Memory ของเด็กให้ใส่ใจจดจำ

หากเราต้องการให้เด็กวัยอนุบาลเรียนรู้ทำกิจกรรมต่างๆ หรือกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเอง  การใช้คำสั่งห้วนๆ มักไม่ค่อยได้ผล เพราะเด็กอาจไม่เข้าใจหรือไม่สนใจจะจดจำ ยิ่งกว่านั้นอาจจะทำให้เด็กต่อต้านด้วย  มีเทคนิคหลายวิธีในการฝึก Working Memory ของเด็ก เพื่อให้เด็กเรียนรู้จดจำกิจกรรมหรือขั้นตอนในการทำกิจวัตรประจำวันได้ดี [vc_single_image image=”9696″ img_size=”full”] มีเทคนิคหลายวิธีในการฝึก Working Memory ของเด็ก เพื่อให้เด็กเรียนรู้จดจำกิจกรรมหรือขั้นตอนในการทำกิจวัตรประจำวันได้ดี ดังต่อไปนี้

ใช้เสียงเพลงในการสื่อสารให้เด็กทำกิจกรรมกิจวัตรประจำวัน เข้าแถว เข้ากลุ่ม เก็บของ เป็นวิธีที่ง่ายต่อการที่เด็กเล็กจะจดจำ นอกจากเพลงก็มีคำคล้องจองที่ช่วยให้เด็กจำได้ พอถึงวันหนึ่งคุณครูไม่จำเป็นต้องร้องเพลงแล้ว เด็กจะร้องเพลงเองพร้อมกับลงมือทำ

ใช้ภาพควบคู่กับตัวหนังสือ ในการทำให้เด็กจดจำขั้นตอนกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันได้ และได้เรียนรู้การอ่านการเขียนไปในตัว เช่น ใส่ภาพกิจกรรมไว้ในแผ่นตารางกิจกรรม สำหรับเด็กอนุบาล 1 ใส่เฉพาะภาพกิจกรรม ส่วนอนุบาล 2-3 ใช้ทั้งภาพและตัวหนังสือกำกับ

ใช้นิทานช่วยให้เด็กจดจำและเรียนรู้ภาษา โดยคุณครูอ่านหรือเล่านิทานให้เด็กฟัง หลังจากนั้นให้เด็กๆ ช่วยกันหาคำศัพท์ง่ายๆ จากนิทานแล้วคุณครูเขียนให้ดู เด็กเขียนตาม ออกเสียงอ่าน สุดท้ายวาดรูปเกี่ยวกับคำนั้น เด็กอาจจะเขียนผิดบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่เป็นการฝึกเขียน แต่เป็นการฝึกใช้ Working Memory ซึ่งเมื่อทำเป็นประจำเด็กจะเริ่มจำคำศัพท์สองพยางค์ได้

วิธีการเหล่านี้ไม่ใช่เฉพาะคุณครูเท่านั้นที่นำไปพัฒนา Working Memory ของเด็ก คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถนำไปปรับใช้กับลูกได้เช่นกัน

หากเราต้องการให้เด็กวัยอนุบาลเรียนรู้ทำกิจกรรมต่างๆ หรือกิจวัตรประจำวันด้วยตัวเอง การใช้คำสั่งห้วนๆ มักไม่ค่อยได้ผล เพราะเด็กอาจไม่เข้าใจหรือไม่สนใจจะจดจำ ยิ่งกว่านั้นอาจจะทำให้เด็กต่อต้านด้วย