Page 134 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 134
โรงเรียนปัญญาประทีปเป็นโรงเรียน “บ่มเพำะชีวิต” ในวิถีพุทธ จัดกำรเรียน ด้านที่หนึ่ง คือ กำรพัฒนำจิตใจ ประกอบด้วย 3 ส่วน
กำรสอนแบบ active learning ที่รับนักเรียนระดับมัธยมเข้ำมำอยู่ประจ�ำ มีนักเรียน 2 ใน • ส่วนแรก คือคุณภำพจิต ให้มีควำมเมตตำ กรุณำ ซื่อสัตย์ เสียสละ กตัญญู
ประมำณ 150 คน ส่วนมำกมีฐำนะค่อนข้ำงดี โรงเรียนตั้งอยู่บนเนื้อที่ 82 ไร่ หมายถึงการพัฒนา • ส่วนที่สอง คือสมรรถภำพ ให้มีควำมอดทน ใจสู้ ขยัน ใฝ่รู้
ใน อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ เป็นโรงเรียนที่น�ำเรื่องพุทธปัญญำคือไตรสิกขำ อันมี ศีล ด้านในตัวเรา 2 ด้าน • ส่วนที่สำม คือสุขภำพจิต ให้มีควำมร่ำเริง แจ่มใส เบิกบำน
สมำธิ ปัญญำ เข้ำมำใช้เป็นหลักใหญ่ในกำรจัดกำรเรียนรู้แบบองค์รวม คือเรียนรู้ โดยพื้นฐำนนักเรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะเรียนรู้พัฒนำจิตใจผ่ำนวิชำ
ทั้งด้ำนในของตนเองและเรื่องรำวนอกตัว โดยเอำ “ชีวิต” เป็นตัวตั้ง มำกกว่ำเอำ อำรมณ์ศึกษำ วิชำตื่นรู้ ผ่ำนกำรสะท้อนตัวเอง กำรสวดมนต์ นั่งสมำธิ
“วิชำ” เป็นตัวตั้ง มีพระอำจำรย์ชยสำโร เป็นที่ปรึกษำ โรงเรียนจัดกำรเรียนกำรสอน ด้านที่สอง คือ กำรพัฒนำปัญญำ เริ่มตั้งแต่ควำมคิดพื้นฐำน ได้แก่ กำรคิดวิเครำะห์ คิดวิพำกษ์ คิดสร้ำงสรรค์
โดยมีเป้ำหมำยในกำรจัดกำรเรียนรู้คือ “2 นอก 2 ใน 2 ระดับ” ซึ่งอ้ำงอิงจำก ซึ่งเป็นเรื่องที่ตะวันตกให้ควำมส�ำคัญ นอกจำกนี้ ปัญญำประทีปน�ำเอำหลักกำรโยนิโสมนสิกำร หรือกำรคิด
หลักภำวนำ 4 ของพระพุทธศำสนำ ดังนี้ ให้แยบคำย คิดเพื่อให้เห็นควำมจริง หรือเพื่อแก้ปัญหำ สำมำรถท�ำได้หลำยวิธี เช่น คิดแบบอริยสัจสี่ หำเหตุ
ปัจจัยหรือคิดพิจำรณำให้เห็นถึงไตรลักษณ์คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตำ คือเห็นควำมไม่เที่ยง เป็นต้น ซึ่งกำร
เรียนรู้นี้ จะแทรกอยู่ในทุกวิชำและกิจกรรมที่โรงเรียนจัดให้ เพรำะปัญญำเป็นเป้ำหมำยสูงสุดในกำรพัฒนำชีวิต
2 นอก ด้านที่หนึ่ง คือ กำรพัฒนำพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับโลกฝ่ำยวัตถุ ของผู้เรียน
หมายถึง การพัฒนา เริ่มตั้งแต่กำรดูแลรักษำร่ำงกำยตนเองให้แข็งแรง กำรใช้สอย
พฤติกรรมที่สัมพันธ์ ปัจจัยสี่อย่ำงไรให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ไม่ให้เกิดโทษ
กับโลกภายนอกตัวเรา แล้วขยำยวงกว้ำงไปถึงกำรดูแลสิ่งแวดล้อม และกำรใช้ ในส่วนของนักเรียน เรียนไปตำมหลักสูตรของโรงเรียน
2 ด้าน เทคโนโลยี นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะผ่ำนวิชำกินเป็น ในส่วนของครู โรงเรียนเห็นว่ำครูจะต้องเป็นนักเรียนรู้ ต้องพัฒนำตัวเองอย่ำง
อยู่เป็น ซับเหงื่อโลกและวิถีชีวิตที่ด�ำเนินไปในโรงเรียน 2 ระดับ ต่อเนื่องทั้งในด้ำนทักษะกำรจัดกำรเรียนรู้ ทักษะควำมรู้ทำงวิชำกำร รวมถึง
หมายถึงการจัดการเรียนรู้ทั้ง
ระดับเด็ก (คือนักเรียน) ควำมก้ำวหน้ำต่ำงๆ ที่ทันต่อยุคสมัย แต่ส่วนที่ส�ำคัญมำกอีกส่วนหนึ่ง คือ กำร
ระดับผู้ใหญ่ (คือครูและ พัฒนำวิชำชีวิตของครู ซึ่งทำงโรงเรียนได้จัดให้มีกำรปฏิบัติธรรมส�ำหรับครู
ด้านที่สอง คือ กำรพัฒนำพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับโลกทำงสังคม ให้สำมำรถอยู่ร่วมกับ ผู้ปกครอง) ทุกปี ปีละ 7 วันต่อเนื่อง และกำรที่ได้เรียนรู้จำกพระอำจำรย์ชยสำโร ที่ได้มำ
ผู้อื่นได้อย่ำงดี เกื้อกูลกัน ร่วมกันสร้ำงสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สังคมได้ และไม่สร้ำง เทศน์และตอบปัญหำที่โรงเรียนทุกสัปดำห์ รวมถึงกำรจัด “Dhamma Café”
ปัญหำให้กับสังคม เริ่มตั้งแต่กำรฝึกควบคุมพฤติกรรมของตนเองที่เป็นกำรเบียดเบียน เป็นประจ�ำทุกเดือนท�ำให้ครูสำมำรถน�ำข้อธรรม กำรฝึกสติ วิธีคิด
ผู้อื่น อย่ำงน้อยคือ กำรถือศีลห้ำซึ่งนอกจำกจะลดควำมเดือดร้อนของชุมชนแล้ว ที่เป็นประโยชน์ ไปใช้ในกำรท�ำงำนและในกำรใช้ชีวิตได้
ยังเป็นกำรให้ควำมไว้วำงใจซึ่งกันและกันด้วย เรื่องที่สองคือสื่อสำรเป็น มีปิยวำจำ
THINK before you speak คือ กำรพูดควำมจริง (True) อย่ำงเดียวไม่พอ แต่พูด ในส่วนผู้ปกครอง โรงเรียนจัดให้มีห้องเรียนครูคนแรกของลูกเดือนละ 1 ครั้งในวันศุกร์สุดท้ำยของเดือนที่
แล้วต้องเป็นประโยชน์ (Helpful) สร้ำงแรงบันดำลใจ (Inspiring) มีควำมจ�ำเป็น ผู้ปกครองมำรับลูก ผู้ปกครองได้มำแลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ในกำรเลี้ยงดูลูกตำมหัวข้อที่โรงเรียนตั้งขึ้น
(Necessary) ถูกกำลเทศะด้วยจิตที่เป็นเมตตำ (Kind) และเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป็นกำรร่วมกันสร้ำงองค์ควำมรู้ในกำรเลี้ยงดูลูก และยังเป็นโอกำสให้ผู้ปกครอง
ได้ท�ำควำมรู้จักกันมำกขึ้นด้วย นอกจำกนี้ทำงโรงเรียนยังมีตำรำงปฏิบัติธรรมรวม 14 ครั้งต่อปีให้ผู้ปกครอง
เลือกเข้ำและวำงแผนล่วงหน้ำได้
134 135