Page 40 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 40

นั่นหมายความว่าเมื่อโครงข่ายของสมองส่วนหน้าที่มีทักษะสมอง EF                                  กล่ำวได้ว่ำสมองส่วนหน้ำนี้ท�ำหน้ำที่ในกำรก�ำกับ ควบคุมจัดกำรบุคลิกภำพและ
                                       ท�าหน้าที่คิดวางแผน จัดการอารมณ์ ลงมือกระท�า เพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น                         นิสัยของเรำ หำกเกิดพยำธิสภำพจะท�ำให้คนมีพฤติกรรมที่ควบคุมตนเองไม่ได้
                                        ก่อตัวขึ้นซ�้าๆ ในที่สุดโครงข่ายนี้จะแข็งแรงกลายเป็นพฤติกรรมต่อเนื่อง

                                       กลายเป็น “นิสัย” หรือฝังตัวแน่นเป็น “สันดาน” ที่เราสามารถเห็นได้จาก                         ส่งผลต่อกำรเรียน กำรท�ำงำน และกำรอยู่ในสังคม ไม่รู้ตัวว่ำตนเองต้องแสดงออก
                                                บุคลิกภาพที่แสดงออกให้เห็นของแต่ละบุคคลนั่นเอง                                     อย่ำงไร เวลำไหน ไม่อยำกท�ำอะไร ไม่มีควำมรับผิดชอบต่อกำรงำน ติดเหล้ำ
                                                                                                                                   ติดบุหรี่ เกมหรือสิ่งเสพติดอื่น อำกำรผิดปกตินั้น มีทั้งกำรบกพร่องเรื่องกำรคิด

                                                                                                                                   กำรควบคุมอำรมณ์ ควบคุมพฤติกรรม อำกำรที่แสดงออก คือ สมำธิสั้น วอกแวกง่ำย
                                    พัฒนำกำรของสมองส่วนหน้ำก่อนถึงวัยรุ่น                                                          ควำมจ�ำไม่ดี ไม่สำมำรถท�ำงำนเป็นขั้นเป็นตอนที่มีล�ำดับมีเป้ำหมำยระยะยำว

                                                                                                                                   ควบคุมอำรมณ์ไม่ได้ ควบคุมพฤติกรรมไม่ได้ เป็นต้น

                                        สมองส่วนหน้ำเริ่มท�ำงำนตั้งแต่ขวบปีแรกของชีวิต ในระหว่ำงที่เด็กอำยุประมำณ

                                    7-9 เดือน เมื่อย้ำยสิ่งของออกจำกต�ำแหน่งเดิม เด็กจะยังคงหำของในที่เดิมที่เคยอยู่                   สมองส่วนหน้ำที่พัฒนำไปได้ช้ำที่สุดในช่วงชีวิตวัยรุ่นอยู่บริเวณส่วนหน้ำสุด ซึ่ง
                                    เท่ำนั้น จนกระทั่งอำยุประมำณหนึ่งขวบจึงเข้ำใจได้ว่ำสิ่งของถูกย้ำยต�ำแหน่งได้ คิดได้            ควบคุมอำรมณ์ พฤติกรรม กำรยับยั้งชั่งใจ กำรคำดกำรณ์ผลที่จะตำมมำ กำรที่สมอง
                                    ว่ำถ้ำหำที่นี่ไม่เจอก็ไปหำที่อื่นได้                                                           ส่วนนี้ยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ ส่งผลให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมเสี่ยง เรำจะพบว่ำเด็กเมื่อเข้ำสู่วัย

                                                                                                                                   รุ่นตอนต้น (early adolescence) คือช่วงอำยุประมำณ 12-15 ปี จะอำรมณ์เสีย

                                        อย่ำงไรก็ตำมสมองส่วนหน้ำอันเป็นสมองส่วนที่วิวัฒนำกำรมำหลังสุดนี้ก็ใช้เวลำ                  ตื่นตัวง่ำย โกรธเป็นพำยุบุแคม หำควำมสุขจำกสิ่งกระตุ้นรอบกำยเพื่อให้ตนเอง
                                    ในกำรพัฒนำนำนมำกกว่ำจะสมบูรณ์เต็มที่เมื่ออำยุรำว 20-25 ปี เนื่องจำกโครงข่ำย                    พึงพอใจ เพรำะในช่วงอำยุนี้สมองส่วนอำรมณ์หรือลิมบิก ซึ่งเป็นแรงผลักควำมอยำก
                                    ประสำทที่ซับซ้อน เซลล์ประสำทในสมองส่วนหน้ำนี้เชื่อมกันเองภำยในทั้งซีกเดียวกัน                  และอำรมณ์พัฒนำไปมำกแล้ว และยังมีฮอร์โมนเข้ำมำเสริมอีก แต่สมองส่วนคิด

                                    และซีกซ้ำยขวำ ทั้งยังมีเส้นใยประสำทที่เชื่อมเอำข้อมูลจำกสมองส่วนหลังที่ควบคุม                  ยังเติบโตไม่ทัน

                                    ประสำทสัมผัส คือกำรฟัง ได้ยิน สัมผัส และประสำทควบคุมกำรเคลื่อนไหวทั้งหมด
                                    ของเรำเข้ำมำประมวลว่ำสถำนกำรณ์สิ่งแวดล้อมที่ก�ำลังด�ำเนินอยู่นี้ปกติไหม แล้วส่ง                    ควำมสำมำรถในกระบวนกำรคิดของวัยรุ่นจะเริ่มคงที่ในอำยุประมำณ 16-18 ปี
                                    ข้อมูลป้อนกลับไปว่ำควรสนองตอบออกไปอย่ำงไรจึงจะไปสู่เป้ำหมำยได้                                 โดยควำมสำมำรถในกำรมองอนำคต (ซึ่งมีควำมสัมพันธ์กับเป้ำหมำย) จะพัฒนำไป

                                                                                                                                   จนถึงช่วงอำยุประมำณ 25 ปี

                                        กำรที่สมองส่วนหน้ำท�ำงำนเชื่อมโยงกับสมองส่วนอื่นๆ ที่ท�ำหน้ำที่เกี่ยวกับ
                                    ควำมจ�ำและสมำธิ กับกำรท�ำงำนเชื่อมโยงกับสมองส่วนควบคุมกำรเคลื่อนไหวจะช่วย                          ข้อมูลนี้มีควำมส�ำคัญต่อผู้ปกครองและครูรวมทั้งคนที่ท�ำงำนกับวัยรุ่น เพี่อให้
                                    ให้เรำหยุดคิดก่อนท�ำ ไม่หุนหันพลันแล่น ช่วยให้เรำก�ำกับควบคุมตนเองได้ ท�ำให้เรำ                เข้ำใจว่ำกำรที่วัยรุ่นคิดสั้นหรือหุนหันพลันแล่นนั้นเป็นธรรมชำติภำยในของวัย ไม่ใช่

                                    ชะลอควำมอยำกได้ รอได้ โดยไม่เอำควำมสุขเฉพำะหน้ำ อดทนเพื่อควำมส�ำเร็จ                           นิสัยของคนนั้นเสียทั้งหมด จึงไม่ควรเอำแต่ต�ำหนิหรือลงโทษ

                                    ที่ส�ำคัญกว่ำในอนำคต ซึ่งเป็นเรื่องที่เด็กวัยเรียนวัยรุ่นจนเข้ำมหำวิทยำลัยต้องใช้
                                    ทักษะส่วนนี้อย่ำงมำกเพื่อก้ำวไปสู่อนำคตที่ดี






            40                                                                                                                                                                                                                    41
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45