Page 115 - Executive Functions ในเด็กวัย 7-12 ปี
P. 115
4.2 เป็นพวกเดียวกับเด็กเสมอ 4.4 Inner Voice
การได้รับการตอบสนองทางจิตใจเป็นสิ่งส�าคัญที่จะป้องกันพฤติกรรมต่อต้าน นอกจากการตีความหมายของสมองและการตอบสนองทางจิตใจแล้วนั้น สิ่งที่
ที่เกิดจากการใช้อารมณ์ ดังนั้นการสื่อสารเพื่อให้เด็กรู้สึกว่าครูหรือพ่อแม่เป็นพวกเดียว เทคนิควินัยเชิงบวกให้ความส�าคัญอีกสิ่งหนึ่งคือการเลือกใช้ค�าพูดและการสื่อสาร
กับเด็กเสมอ จะช่วยป้องกันสถานการณ์การต่อต้าน และยังเป็นการสร้างเสริมความ กับเด็กมากเป็นพิเศษ เพราะค�าพูดเหล่านี้จะกลายเป็นเสียงในหัวของเด็กที่มีไว้เพื่อ
สัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของเทคนิควินัยเชิงบวกอีกด้วย บอกและก�ากับตนเองต่อไป ในกระบวนการสร้างวินัยของเด็กเองเราเรียกว่า inner
การสื่อสารที่จะท�าให้เด็กรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกับเด็กเสมอ คือการที่ครูหรือพ่อแม่แสดง voice จึงเป็นที่มาของการบอกว่า อยากให้เด็กเป็นอย่างไรให้พูดสิ่งนั้นบ่อยๆ
ความเข้าใจในความรู้สึกของเด็ก อนุญาต รัก สนใจ และเป็นห่วงเสมอ เช่น เพราะเด็กจะตีความหมายและน�าไปบอกตนเอง เสียงนั้นควรเป็นเสียงที่มีคุณภาพ
พอที่จะช่วยเด็ก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลักที่เด็กจะมีวินัยได้ด้วยตนเอง
สถานการณ์ : เมื่อเด็กพูดคุยเสียงดังภายในห้องเรียน
แทนที่จะพูดว่า “เงียบๆ หน่อย” “จะเรียนกันมั้ยวันนี้” 4.5 ต่อเนื่อง
เทคนิควินัยเชิงบวกจะพูดว่า “เรื่องที่คุยกันต้องเป็นเรื่องที่น่าสนุกมากแน่ๆ ครูเอง เพราะการสร้างทักษะและกระบวนการคิดนั้นเกิดขึ้นจากการกระตุ้นและพัฒนา
ก็อยากฟัง เรารีบเรียน เสร็จแล้วมาเล่ากันดีกว่า” หรือ “ครูเข้าใจว่าหนูอยากคุยกัน สมองส่วน EF ที่มีการเจริญเติบโตจากทารกไปสู่วัยผู้ใหญ่ ในขณะที่การแสดงออก
ครูให้เวลาคุยอีก 2 นาที แล้วที่เหลือเก็บไว้คุยหลังเรียนเสร็จ” ตามสัญชาตญานนั้นไม่ต้องเรียนรู้หรือฝึกฝนเด็กก็สามารถท�าเป็น เช่น การโกหก
ดังนั้นการสื่อสารเพื่อสร้างทักษะใดๆ ก็ตามที่เป็นทักษะและพฤติกรรมที่เหมาะสม
4.3 ใจดี ไม่ใจอ่อน (kind but firm) ต้องมีความต่อเนื่องและใช้เวลาเพื่อให้เด็กเรียนรู้และฝึกฝน
มักจะเข้าใจกันผิดว่าเทคนิควินัยเชิงบวกเป็นการตามใจเด็ก เพราะการมุ่งรักษา
ความสัมพันธ์เป็นเป้าหมายหลัก แต่หากพิจารณาตามเป้าหมายหลักข้ออื่นของเทคนิค
วินัยเชิงบวกจะพบว่า การสอนการสร้างทักษะและการสร้างวินัยในตนเองนั้นไม่ใช่การ หลักการท�างานของเทคนิควินัยเชิงบวก
ตามใจ เพราะเทคนิควินัยเชิงบวกเห็นความส�าคัญของกระบวนการท�างานของสมองซึ่ง
สมองส่วน EF จะท�างานได้เมื่อสมองส่วนอารมณ์และสัญชาตญานได้รับการตอบสนองก่อน ใจดีแต่ไม่ใจอ่อน
ดังนั้นการสื่อสารจะเป็นไปในรูปแบบของการใจดี ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการ
ทางจิตใจของเด็ก พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการกระตุ้นการต่อต้าน แต่ไม่ใจอ่อน ยังจะฝึกฝน ตีความหมาย
ให้เด็กเกิดทักษะการควบคุมอารมณ์ตลอดจนทักษะกระบวนการคิด หรือทักษะสมอง การกระท�าของเด็ก
ให้เด็กได้เรียนรู้
EF ด้านอื่นๆ เพราะการฝึกฝนจะท�าให้เกิดเป็นวินัยในตนเองได้ ตัวอย่างเช่น เป็นพวกเดียว
กับเด็กเสมอ
สถานการณ์ : เมื่อนักเรียนไม่กินอาหารกลางวันและบอกว่าไม่หิว มาบอกว่าหิวข้าว
หลังจากเลยเวลาอาหารกลางวันมาแล้ว
แทนที่จะพูดว่า “นี่ไม่ใช่เวลากินข้าว” “หาอะไรรองท้องไปก่อน” สร้าง
เทคนิควินัยเชิงบวกจะพูดว่า “ขอบคุณครับที่บอกครู จ�าไว้นะความรู้สึกนี้แหละ inner voice ให้เด็กได้เรียนรู้
ครับที่เรียกว่าหิว ครั้งหน้ากินเมื่อถึงเวลาควรกินไว้ก่อนนะครับ” ให้กับเด็ก ต่อเนื่อง
114 115