สอบถามการใช้งานระบบ?

(02)913 - 7555 กด 4104

ฝ่ายบริการสมาชิกเว็บไซต์

ความรู้ชุด: จักรวาลของ “สมอง” #3

สารสื่อประสาทกับความจำและการเรียนรู้

ความจำและการเรียนรู้เป็นกระบวนการทำงานชั้นสูงของสมองมนุษย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และซับซ้อนกว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิด กระบวนการนี้มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมากระหว่างสารสื่อประสาทกับการที่เซลล์ประสาทได้รับการกระตุ้นความสนใจต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  การได้ประสบการณ์ การจัดเก็บและการดึงข้อมูลของแต่ละประสบการณ์ขึ้นมาใช้นั้น ล้วนเกี่ยวข้องกับสารสื่อประสาทซึ่งถูกสร้างขึ้นบริเวณปลายประสาท เพื่อเป็นตัวนำสัญญาณประสาทจากเซลล์ประสาทหนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่ง หรือเชื่อมโยงระหว่างเซลล์ประสาทกับเซลล์กล้ามเนื้อ โดยการส่งสัญญาณจะเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อระหว่างเซลล์เรียกว่า ไซแนปส์ (Synapse)

กระบวนการเชื่อมต่อกันของไซแนปส์เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ประสาทในสมองได้รับสัญญานจากประสาทสัมผัสทั้งห้า ทำให้การทำงานของระบบประสาทเชื่อมโยง “ข้อมูล” ที่สมองได้รับ เกิดเป็นวงจรประสาทอย่างความสมบูรณ์ เกิดเป็นเครือข่าย ความจำและการเรียนรู้ เพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่เข้ามากระทบ โดยมีสารสื่อประสาทที่สำคัญกับการเรียนรู้ 3 ชนิด คือ

อะซิทิลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งทำหน้าที่ในเรื่องความจำ สมาธิ ความสนใจ การตัดสินใจ และกระบวนการการเรียนรู้

กลูตาเมต (Glutamate) กระตุ้นการทำงานของสมอง ทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำและการเรียนรู้ และ แอสปาร์เทต (Aspatate) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่กระตุ้นการทำงานและการเรียนรู้ของสมองเช่นเดียวกับกลูตาเมต นอกจากนี้ยังมีสารสื่อประสาทอีกหลายชนิดที่มีบทบาทต่อความจำและการเรียนรู้ เช่น อะดรีนาลีนที่ควบคุมความกลัว ความเครียด ความโกรธและความรู้สึกวิตกกังวล โดปามีนที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการลืม เป็นต้น

สารสื่อประสาทในสมอง สามารถแบ่งออกตามหน้าที่ได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ สารสื่อประสาทกระตุ้นสมอง เช่น กลูตาเมต แอสปาร์เทตที่กระตุ้นการทำงานของสมอง และโดพามีน สารสื่อประสาทสำคัญที่ควบคุมสมองส่วน Reward และ Pleasure Center  ที่หลั่งออกมาเมื่อเรารู้สึกสนุกถูกท้าทาย ดึงดูดพฤติกรรมให้จดจ่ออยู่กับการเรียนรู้และการจดจำ นอกจากสารสื่อประสาทกระตุ้นสมอง ยังมีสารสื่อประสาทอีกประเภท คือสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สมองผ่อนคลาย เช่น เอนโดฟีน สารระงับความปวดตามธรรมชาติ ช่วยบรรเทาความเครียด สร้างความรู้สึกพึงพอใจและเป็นสุข เซโรโทนิน สารสื่อประสาทที่ถูกจัดว่าเป็นสารแห่งความสุข (Happiness molecule) ทำงานเกี่ยวข้องกับอารมณ์ผ่อนคลาย ความรู้สึกมีความสุข และการรับรู้ เป็นต้น

สารสื่อประสาททั้งสองกลุ่มมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน การขาดสมดุลของสารสื่อประสาทอาจก่อให้เกิดปัญหาทางอารมณ์ ทำให้อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า มีปัญหาการนอนหลับ รวมทั้งยังส่งผลกับการทำงานของร่างกายได้ เช่น รบกวนการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ และระบบภูมิคุ้มกัน  การรักษาสมดุลของสารสื่อประสาทให้เป็นปกติจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมีความสำคัญต่อการควบคุมการทำงานของร่างกายและการจัดการอารมณ์ต่างๆในชีวิตประจำวัน สารสื่อประสาทที่ไม่สมดุลเป็นสาเหตุปัญหาการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ปัญหาทางอารมณ์ ความจำ การนอนหลับ พฤติกรรมการเสพติด เช่นติดเกมส์ ติดเหล้า หรือติดยา และโรคภัยต่างๆ การขาดความสมดุลของสารสื่อประสาทมีสาเหตุจากหลายประการ ตั้งแต่ความเครียดในชีวิตประจำวันที่สะสมมา การใช้คอมพิวเตอร์ยาวนานเกินไป การอดหรือขาดอาหาร การดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ที่มีนิโคติน มลพิษต่างๆในสิ่งแวดล้อม และการใช้ยาบางชนิดอย่างต่อเนื่อง

ในการเรียนรู้และการทำงานของสมองนั้น นอกจากสารสื่อประสาทที่มีบทบาทอย่างมากแล้ว เซลล์ประสาทส่งสัญญานหรือที่เรียกว่า Axon มีฉนวนที่เรียกว่า “ปลอกไมอีลิน” (Myelin) ช่วยทำให้การส่งสัญญานไฟฟ้าจากเซล์ประสาทหนึ่งไปยังเดนไดรต์ (Dendrite) ซึ่งเป็นแขนงประสาทนำสัญญานไฟฟ้าหรือคำสั่งเข้าสู่เซลล์ประสาทอีกเซลล์ได้เร็วขึ้น ด้วยการเดินทางเฉลี่ยประมาณ 120 เมตรต่อวินาที ปลอกไมอิลีนทำให้เซลล์สมองเชื่อมต่อระหว่างกันเป็นวงจรประสาท สร้างการเรียนรู้และส่งสัญญานตอบสนองไปยังประสาทสัมผัสและกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็ว 

ที่มาของรูปภาพ: https://myautisticmuslimchild.wordpress.com/2010/08/17/four-major-conditions-found-in-every-autistic-child/

ปลอกไมอีลินในแขนงประสาทที่ยื่นออกไปจากเซลล์ประสาทประสาทส่งสัญญานหรือ Axon ซึ่งส่ง “สัญญานประสาท” หรือ “คำสั่ง” หรือบางทีเรียกว่า “ข้อมูล” จากเซลล์ประสาทหนึ่ง สื่อสารไปยังเซลล์ประสาทตัวต่อไป เป็นวงจรประสาทที่ส่งคำสั่งไปยังกล้ามเนื้อให้ทำงาน เส้นใยประสาทที่มีไมอีลินสูง เช่น ใยประสาทของวัยรุ่นสามารถส่งสัญญานประสาทได้มากกว่าใยประสาทที่มีไมอีลินน้อยถึง 60 เท่า ทำให้การรับรู้ เรียนรู้ คิดวิเคราะห์ การสื่อสาร ตลอดจนการเคลื่อนไหวของร่างกายทำได้อย่างรวดเร็ว ดังที่เราเห็นได้ในวัยรุ่นที่เรียนรู้เรื่องราวต่างๆได้รวดเร็ว หรือบางทีตอบสนองต่อสิ่งที่มากระทบอย่างทันควัน รวมทั้งคนที่เรียนรู้ได้รวดเร็วฉลาด คล่องแคล่ว


การได้ดื่มนมแม่ส่งเสริมการสร้างปลอกไมอีลินให้หนาขึ้น

นมแม่มีสารอาหารหลักที่สำคัญคือ ไขมัน โปรตีน แลคโตส

นอกจากนี้การสร้างปลอกไมอีลินยังได้จากสารอาหาร

เช่น DHA โคลีน โปรตีน จาก ไข่ ครีม ชีส นม

และการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่


นอกจากอาหาร เรายังสามารถสร้างปลอกไมอีลินผ่านการกระตุ้นเซลล์ประสาท ด้วยการฝึกฝนผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างต่อเนื่อง เช่น การให้เด็กได้ฟังเสียงที่หลากหลายและฟังดนตรี ช่วยส่งเสริมการสร้างวงจรประสาทและการสร้างปลอกไมอีลินของเซลล์ประสาทส่วนของการรับเสียง และการแปลความหมายของเสียง   การฝึกแก้ปัญหาบ่อยๆ จะพัฒนาวงจรประสาทและการสร้างปลอกไมอีลินในสมองส่วนหน้าที่ทำงานด้านการเรียนรู้ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า สมองที่มีคุณภาพ เกิดจากกระบวนการที่เซลล์ประสาทเชื่อมต่อกัน สร้างเป็นวงจรประสาท (Neural Circuit) ซึ่งทำงาน “สั่งการ” ตามหน้าที่ของสมองส่วนที่รับผิดชอบเรื่องนั้นๆ

“สัญญาณประสาท” หรือ “คำสั่ง”ที่เกิดขึ้น จะถูกส่งไปตามทางเดินของระบบประสาท เช่น ไขสันหลัง เส้นประสาท และกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ในการทำกิจกรรมนั้น ๆ โดยมีสารสื่อประสาททำหน้าที่เป็น “สะพาน” เป็นตัวเชื่อมไซแนปส์ หรือช่องว่างระหว่างเซลล์ประสาท ให้สัญญานประสาทดังกล่าวเชื่อมโยงกันครบวงจร สร้างเป็น Loop  โดยมีปลอกไมอิลีนเป็นฉนวนส่งให้ความเร็วของสัญญานมากขึ้น ทำให้ร่างกายทำงานตามคำสั่งของสมองได้ สร้างความรู้สึก ความจำ การเรียนรู้  การเคลื่อนไหว จนปรากฏเป็นสิ่งที่แสดงออกหรือที่เรียกว่า พฤติกรรม ให้เราเห็นกัน


อ้างอิง

  • https://www.khanacademy.org/science/biology/human-biology/neuron-nervous- system/a/the-synapse
  • https://qbi.uq.edu.au/brain/brain-physiology/what-are-neurotransmitters(July 26, 2012)
  • Anne Marie Helmenstine, Ph.D. , What You Need to Know About Neurotransmitters, https://www.thoughtco.com/neurotransmitters-definition-and-list-4151711, March 07, 2019
  • Sally Robertson, B.Sc., What is Myelin, https://www.news-medical.net/health/What- is-Myelin.aspx, search July 29,2021

Related Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

Stay Connected

74,430แฟนคลับชอบ
- โครงการ “สื่อเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาเด็กปฐมวัย ในวิถีชีวิตใหม่” -
- EF Development Tools -

Latest Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

นายสวัสดิ์ เมฆสุนทร  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ จ.นครราชสีมา 

ผอ.สวัสดิ์ได้รับการแนะนำจากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ให้รู้จัก EF รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง EF ในการประชุมเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง(TSQP)อยู่เสมอ และเข้ารับการอบรมกับสถาบัน RLG เพิ่มเติม  แล้วเห็นว่า EF เป็นความรู้พื้นฐานหรือความรู้ปฐมบทที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ว่าสถานะใดควรต้องรู้ ไม่ใช่เฉพาะผู้ปกครองชนชั้นกลางขึ้นไปที่มีความรู้ หรือเป็นความรู้ในหมู่ครูอาจารย์หรือแพทย์เท่านั้น  ครอบครัวที่ด้อยโอกาสก็ควรต้องรู้ สรุปคือสังคมไทยควรต้องเรียนรู้เรื่อง EF เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันจึงสนับสนุนให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนได้รับการอบรม EF จากสถาบัน RLG และดำเนินการปรับสนามเด็กเล่นเพื่อให้เด็กได้เล่นอิสระอย่างปลอดภัยและมีความสุข...

นายจรูญ น้อยสำราญ  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบอน จ.ตราด

โรงเรียนบ้านหนองบอนเป็นโรงเรียนหนึ่งในเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQD) กสศ.ซึ่งทำให้ผอ.จรูญได้เริ่มรู้จัก EF แล้วทำให้อยากรู้ว่า EF คืออะไร เมื่อพบว่าสถาบัน RLG มีการอบรมเรื่องนี้จึงสมัครเข้ารับอบรมพร้อมครูอนุบาล 2 คน  แล้วได้เห็นว่า EF เป็นคำตอบเรื่องการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และการพัฒนาเด็กให้เต็มศักยภาพ จึงนำความรู้ EF มาถ่ายทอดให้ครูในโรงเรียน โดยใช้สื่อจากสถาบันRLG ให้ครูเรียนรู้ และมอบหมายให้รองผอ.ติดตามการดำเนินการขับเคลื่อนความรู้ EF สู่การปฏิบัติในชั้นเรียนอนุบาล...