Page 121 - Executive Functions ตั้งแต่ปฏิสนธิ-3 ปี
P. 121

ทักษะพ่อแม่ในการพัฒนาทักษะสมอง EF ของลูก  มีอารมณ์มั่นคงเป็นสิ่งส�าคัญ ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือพ่อแม่ต้องอารมณ์ดีไว้ก่อน
    มีค�ากล่าวว่า “พ่อแม่ต้องพัฒนาตัวเองก่อน จึงจะสามารถพัฒนาลูกได้”   ซึ่งจะท�าให้บรรยากาศในบ้านดี เด็กรู้สึกมั่นคง แต่ก็เป็นไปได้ว่าเด็กบางคนอาจจะ

 และถ้าพ่อแม่อยากให้ลูกพัฒนาทักษะสมอง EF พ่อแม่ก็ต้องพัฒนาในเรื่องเหล่านี้   มีทักษะสมอง EF ที่ดีกว่าพ่อแม่ พ่อแม่อาจมีเวลาที่ควบคุมตนเองไม่ได้เพราะ
               ไม่ได้รับการฝึกมาตั้งแต่เด็ก  หากพ่อแม่พยายามฝึกลูก จะเท่ากับเป็นการฝึกตัวเอง
    1. พ่อแม่จ�าเป็นต้องมีความรู้เรื่องพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัย เพราะเด็ก  ไปด้วย พบว่าการที่พ่อแม่ท�าความเข้าใจอารมณ์ลูก ท�าให้การเลี้ยงดูลูกง่ายขึ้นมาก

 มีพฤติกรรมพัฒนาการที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา พ่อแม่ต้องติดตาม เฝ้าระวังพัฒนาการ     พฤติกรรมเด็กสามารถสะท้อนถึงพ่อแม่ได้ พฤติกรรมเด็กเล็กๆ ก็สะท้อน

 ของลูกไปตามช่วงวัย (สามารถเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน คู่มือเฝ้าระวังและ  พ่อแม่ได้ มีการทดลองให้เด็กวัย 8-9 เดือนคลานไปบนแผ่นกระจกใส  เด็กซึ่ง
 ส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (Developmental Surveillance and Promotion   ยังไม่รู้จักระยะ (Depth Perception) เมื่อแม่เรียกจะคลานไปหาแม่ทันที
 Manual – DSPM) ซึ่งพ่อแม่ที่ให้ก�าเนิดบุตรตั้งแต่ 2 เมษายน 2558 เป็นต้นไปจะ  พอ 9-10 เดือน เด็กเริ่มรู้จักระยะ พอคลานมาถึงกระจก เด็กจะหยุด มองมาทาง

 ได้รับแจก)  ค้นหาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย  แม่ ในการทดลองให้แม่เรียกลูกให้คลานมาหา ถ้าแม่ท�าท่ากลัว บอกว่าอย่ามา

               เด็กจะถอย เด็กอ่านสิ่งแวดล้อมจากคนที่เขาไว้ใจ  พ่อแม่ที่ขี้วิตกกังวล คอยห่วง
    2. พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเด็ก ต้องมีแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับระดับพัฒนาการของเด็ก   คอยห้ามลูก เด็กจะกลายเป็นคนขี้กลัว ซึ่งที่ถูกแล้ว ในจุดที่เป็นอันตรายแทนที่จะ
 (Developmentally Appropriate Practice) พ่อแม่นอกจากต้องเข้าใจในเรื่อง  ห้ามลูก พ่อแม่ควรสอนวิธีการให้ลูก เช่น ถ้าเห็นว่าการขึ้นบันไดชั้นบนเป็นอันตราย

 พัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัยแล้ว ยังต้องรู้จักตอบสนองลูกในแต่ละช่วงวัยในช่วง  ก็สอนลูกให้รู้จักปีนขึ้นบันไดอย่างปลอดภัย เป็นต้น

 เวลาส�าคัญของพัฒนาการอย่างเหมาะสม เช่น ลูกอายุ 10 ขวบแล้วพ่อแม่ยังเลี้ยงดู
 เหมือนลูกอายุ 3 ขวบไม่ได้ หรือต้องดูว่าช่วงวัยใดสมองลูกเน้นพัฒนาความสามารถ
 ด้านใด และพ่อแม่ต้องรู้ว่าจะช่วยกระตุ้นการพัฒนานั้นได้อย่างไร




    3. พ่อแม่ต้องมีทักษะสมอง EF ที่ดี นอกจากมีความรู้ความเข้าใจเรื่องพัฒนาการ
 และทักษะสมอง EF แล้ว ต้องมีการตอบสนอง (Reaction) ที่ดี เหมาะสม ควบคุมอารมณ์
 ควบคุมตนเองได้ และรู้จักใช้วินัยเชิงบวก (Positive Discipline) ฯลฯ




    ในเรื่องทักษะสมอง EF ของพ่อแม่นั้น มีข้อสังเกตว่า...
    เด็กที่มีทักษะสมอง EF ดี เพราะพ่อแม่สามารถตอบสนองความต้องการทาง
 ร่างกายและจิตใจของลูกได้ดี (Positive & Responsive Interaction) พ่อแม่

 ที่ชอบโวยวาย วิตกกังวล ลูกมักขี้กลัว ส่วนผู้ปกครองที่มีอารมณ์และท่าทีมั่นคง

 ใช้เหตุผล ลูกจะมีการยั้งคิด ไตร่ตรอง (Inhibit) และทักษะทางสังคมที่ดี มีการ
 ควบคุมอารมณ์ กล้าแสดงความคิดเห็น ไม่กลัวผิด เพราะฉะนั้น การที่พ่อแม่




 120                                                                                                         121
   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126