Page 110 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 110

วัยรุ่นเป็นช่วงรอยต่อระหว่ำงเด็กกับกำรเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ แต่สิ่งที่สังคมไทยเผชิญ
                              อยู่คือวัยรุ่นส่วนมำกมีรำกฐำนของชีวิตและสมองโดยเฉพำะส่วน EF ไม่แข็งแรง เรำต้อง                                                     นอกจำกนี้ยังต้องสร้ำงโอกำสในกำรเรียนรู้ผ่ำนกำรใช้ร่ำงกำยและกำรคิด

                              ท�ำควำมเข้ำใจกำรท�ำงำนระหว่ำงสมองส่วนหน้ำกับสมองส่วนกลำงว่ำมีควำมสัมพันธ์กัน                                 physical          อย่ำงจริงจัง ซึ่งสำมำรถท�ำได้ในหลำยรูปแบบ ได้แก่
                              อย่ำงไรและ EF คืออะไร ท�ำงำนอย่ำงไร จึงจะสำมำรถหนุนให้โครงข่ำยที่ดีในสมอง                                    activity

                              ของประชำกรช่วงวัยรุ่นเติบโตได้เต็มศักยภำพ ให้ควำมส�ำคัญกับกำรวำงสภำพแวดล้อมให้                                                      physical activity กำรเรียนรู้ผ่ำนประสำทสัมผัสทั้ง 5 สำมำรถท�ำได้
                              เด็กได้ใช้ทั้งร่ำงกำยและควำมคิดอย่ำงจริงจัง ให้ได้ฝึกวำงเป้ำหมำย วำงกระบวนกำรให้ได้                                             โดยให้เด็กท�ำกิจกรรมในชีวิตประจ�ำวัน  เช่น กำรท�ำงำนบ้ำน กำรเรียนศิลปะ

                              ฝึกกระบวนกำรตัดสินใจจำกสถำนกำรณ์จริงที่มีควำมท้ำทำยน่ำสนใจ มีกำรวำงแผนที่                                                       และดนตรี  กีฬำ กำรออกไปเรียนรู้ธรรมชำติ กำรเรียนรู้ที่หลำกหลำยเชื่อมโยง
                              ซับซ้อน ซึ่งหมำยถึงระบบกำรเรียนกำรสอนที่จะต้องเปลี่ยนไปให้เด็กได้ลงมือท�ำ                                                       กับชุมชนสังคมและสภำพแวดล้อม

                              (active learning) อย่ำงจริงจัง เช่น กำรเรียนแบบ problem - based learning และ
                              project - based learning ที่มีโครงสร้ำงดังต่อไปนี้                                                                                  นอกจำกนี้กำรเล่นเกมที่ต้องใช้ควำมคิด เช่น กำรเล่นหมำกรุก

                                                                                                                                                              หมำกล้อม โดยเฉพำะเกมหมำกรุกท�ำให้ได้ฝึก ทั้ง working memory,
                                  1.  มีกำรแบ่งกลุ่ม                                                                                                          attention, goal - directed และ planning มีงำนวิจัยพบว่ำสมองของ

                                  2.  กลุ่มมีควำมหลำกหลำย                                                                                                     ผู้เล่นมีกำรเชื่อมต่อเป็นเครือข่ำยที่มีประสิทธิภำพมำกกว่ำ พัฒนำทั้ง
                                  3.  ส่งเสริมให้ทุกคนประสบควำมส�ำเร็จในทำงใดทำงหนึ่ง เพื่อให้เด็กมี self-esteem                                              ทักษะกำรเรียนรู้ ทักษะกำรจดจ�ำและทักษะกำรแก้ปัญหำ กำรวำงแผน

                                    หมำยถึงกำรที่เด็กคนหนึ่งสำมำรถควบคุมชีวิตตนเองได้ ชีวิตเป็นของตนเอง รู้ว่ำ                                                กำรปรับประยุกต์ใช้สิ่งต่ำงๆ รวมไปถึงควำมสำมำรถในกำรอ่ำนควำมคิดของ
                                    ตนเองท�ำอะไรได้บ้ำง                                                                                                       คู่ต่อสู้ นั่นหมำยควำมว่ำทักษะสมอง EF ได้ถูก “ปั่น” ครบเกือบทุกด้ำน

                                  4.  สนใจกระบวนกำรหำค�ำตอบ
                                  5.  ไม่พุ่งเป้ำไปที่ผลลัพธ์

                                  6.  นักเรียนได้ลงมือท�ำจริง
                                  7.  มีวิชำพื้นฐำนคือ ภำษำไทย ภำษำอังกฤษและคณิตศำสตร์เป็นฐำน

                                  8.  ไม่ลืมว่ำ “เรียนหนังสือ” ไปเพื่ออะไร
                                  9.  เรียนเพื่อพัฒนำทักษะในศตวรรษที่ 21 อันได้แก่ ทักษะในกำรเรียนรู้ ทักษะชีวิต

                                    และทักษะ IT
                                  10. มีกำร AAR (after action review)

                                   •  ค�ำถำมหลักคือ โปรเจ็คนี้ได้อะไร
                                   •  ได้เรียนรู้อะไร ได้ทบทวนว่ำอยู่บันไดขั้นไหนเพื่อไปต่อ

                                  11. พิสูจน์ได้ว่ำนักเรียนมีควำมก้ำวหน้ำในทักษะจริง เช่น มีเรื่องรำว (story) รำยงำน
                                  12. ครูมีกำรประชุมกันเพื่อประเมิน PBL ที่ท�ำอยู่เพื่อพัฒนำปรับปรุง






            110                                                                                                                                                                                                                  111
   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115