Page 106 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 106

3. สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาทางร่างกาย  อารมณ์  จิตใจ                                          กำรก�ำหนดตำรำงเวลำชีวิตที่แน่นอนจะช่วยสร้ำงควำมมั่นคงทำงใจ ท�ำให้รู้ว่ำ
                                   และความคิด                                                                                      ในแต่ละวันจะจัดกำรชีวิตอย่ำงไร ตื่นและนอนเมื่อไหร่ เมื่อตื่นขึ้นมำแล้วต้องท�ำ

                                       มนุษย์เรียนรู้จำกกำรมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อมจึงมีอิทธิพล                     อะไรบ้ำง แต่ต้องเปิดพื้นที่ให้เด็กได้ยืดหยุ่น มีพื้นที่พอเพียงให้เด็กเรียนรู้ที่จะจัดกำร

                                   และส่งผลกระทบต่อพัฒนำกำรของวัยรุ่นอย่ำงรอบด้ำน เป็นเสมือนครูที่สร้ำง                            ตนเองมำกขึ้นทีละนิด จำกเดิมที่ถูกผู้อื่นจัดกำรให้ในช่วงยังเป็นเด็กเล็ก เพื่อจัดกำร
                                   กำรเรียนรู้โดยไม่ต้องพูด สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อกำรพัฒนำทักษะสมอง EF มีหลำยเรื่อง                รับผิดชอบตนเองได้ทั้งหมดเมื่อเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ กำรจัดระเบียบชีวิต กิจวัตร

                                   ที่ผู้ใหญ่โดยเฉพำะผู้ที่เกี่ยวข้องต้องเข้ำใจและลงมือจัดกำร เช่น สร้ำงสิ่งแวดล้อมที่มี           ประจ�ำวัน เป็นสิ่งแวดล้อมทำงกำยอย่ำงหนึ่งที่ด�ำเนินไปตำมวิถีชีวิตและวัฒนธรรม
                                   ควำมปลอดภัยทั้งทำงร่ำงกำย จิตใจและจิตวิญญำณ                                                     ประเพณีของสังคม กิจวัตรในแต่ละวันที่ท�ำอย่ำงสม�่ำเสมอสร้ำงควำมรู้สึกมั่นคงทำงใจ

                                                                                                                                   และร่ำงกำยปลอดภัย นั่นหมำยถึงชีวิตที่เป็นระบบ ถึงเวลำกินได้กิน ถึงเวลำนอน
                                       ควำมรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยเป็นควำมต้องกำรพื้นฐำนของมนุษย์ทุกคน                              ได้นอน มีเวลำเรียน เล่น พักผ่อน ออกก�ำลังกำย และได้รับมอบหมำยให้ช่วยท�ำงำน

                                   วัยรุ่นจะเติบโตขึ้นมำเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจและอำรมณ์มั่นคง รู้จักยับยั้งชั่งใจ ยืดหยุ่น          บ้ำน (ไม่เรียนเพียงอย่ำงเดียว) ตั้งแต่ปฐมวัยต่อเนื่องมำจนเติบใหญ่ โดยปรับเปลี่ยน
                                   จดจ่อ ควบคุมตนเองได้ จนกลำยเป็นนิสัยหรือสันดำนดี ล้วนต้องกำร บ้ำน โรงเรียน                      เวลำให้เหมำะสมกับวัยและสภำพแวดล้อม

                                   และสังคมที่มีควำมปลอดภัย ไม่ถูกข่มขู่คุกคำม รังแกข่มเหง เอำรัดเอำเปรียบ ไม่ว่ำ
                                   จะเป็นด้ำนร่ำงกำยหรือจิตใจ                                                                          สภาพแวดล้อมเชิงสังคม เป็นพื้นที่ที่วัยรุ่นจะได้ฝึกทักษะทำงสังคม โดยเฉพำะ

                                                                                                                                   ทักษะที่เรียนรู้ผ่ำนกลุ่มเพื่อน สังคมจึงต้องมีพื้นที่ทำงกำยภำพที่ปลอดภัยให้เด็กได้ท�ำ
                                       สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มองเห็นได้ง่ำยๆ ทำงกำยภำพ เริ่มตั้งแต่ควำมสะอำด                       กิจกรรมร่วมกันในหลำยรูปแบบ และมีกิจกรรมที่มีคุณภำพให้วัยรุ่นได้มีโอกำสเรียนรู้

                                   ในบ้ำน กำรจัดข้ำวของเครื่องใช้ให้เรียบร้อย นอกจำกดีต่อสุขภำพอนำมัย ยังสร้ำง                     กับผู้คนในชุมชนที่ตนอำศัยอยู่อย่ำงหลำกหลำย ทั้งนี้สภำพที่แวดล้อมเชิงสังคมเรื่องหนึ่ง
                                   ลักษณะนิสัยที่ดี ในบ้ำนต้องปลอดภัยจำกควำมเสี่ยงทำงอุบัติเหตุและกำรถูกรังแก                      ที่ผู้ใหญ่ในสังคมต้องเข้ำใจและระมัดระวังคือกำรเหมำรวม เช่น กำรบอกว่ำ “ผู้หญิงต้องอ่อน

                                   ควรมีมุมที่สงบและผ่อนคลำย วัยรุ่นควรได้รับพื้นที่หรือเวลำส่วนตัวเป็นของตัวเอง                   หวำน” “ผู้ชำยต้องเข้มแข็ง” ผู้ใหญ่ต้องเรียนรู้ว่ำจะใส่ควำมคิดเห็นของตนลงไปอย่ำงไร
                                   ที่ไม่มีใครรบกวนตำมสมควร โรงเรียนที่มีสภำพแวดล้อมร่มรื่น เป็นธรรมชำติ                           เพื่อให้เด็กเติบโตขึ้นไปแล้วค้นพบตนเอง ไม่ใช่เติบโตไปเป็นแบบที่ถูกสังคมเหมำรวม

                                   สำมำรถช่วยให้เด็กมีจิตใจสุขสงบ พร้อมเรียนรู้ได้ดีกว่ำสภำพแวดล้อมที่วุ่นวำย
                                   ในชุมชนที่มีพื้นที่เสี่ยงต้องได้รับกำรจัดกำรพัฒนำให้เป็นพื้นที่สร้ำงสรรค์ที่วัยรุ่น                 สภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยทางจิตใจ สิ่งส�ำคัญที่สุดส�ำหรับวัยรุ่นคือควำม

                                   และคนในชุมชนใช้จัดกิจกรรมได้                                                                    รู้สึกว่ำเป็น “หนึ่ง” ในสมำชิกกลุ่ม มีควำมมั่นใจว่ำเมื่อพูดได้รับกำรรับฟัง เมื่อร้องขอ
                                                                                                                                   ควำมช่วยเหลือมีคนเข้ำใจเห็นใจ เมื่อเหนื่อยยำกประสบปัญหำมีคนเคียงข้ำง ไม่ถูก

                                       เมื่อพูดถึงสภำพแวดล้อมของเด็กวัย 13-18 ปี สภำพแวดล้อมในโลกเสมือนจริง                        กดดันจำกอ�ำนำจของผู้ใหญ่ อำกำร “เหงำ” ที่แสดงออกในวัยรุ่นจ�ำนวนมำกเป็น
                                   เช่น โทรศัพท์มือถือ เป็นสภำพแวดล้อมที่ส�ำคัญของเด็กในโลกปัจจุบัน วัยรุ่นในโรงเรียน              ปรำกฏกำรณ์ที่สะท้อนควำมรู้สึกว่ำ “ตนเอง” ไม่ได้เป็นหนึ่งในสมำชิกของสังคมที่

                                   ส่วนใหญ่มีมือถือ ซึ่งให้ควำมสะดวกในกำรติดต่อสื่อสำร เพื่อผ่อนคลำยและเรียนรู้                    ตนอยู่ด้วย ไม่ได้รับกำรรับฟัง ไม่มีใครสนใจ เข้ำใจ เห็นใจ อันเป็นภำวะเสี่ยงที่มีอันตรำย
                                   จะจัดกำรอย่ำงไรให้ปลอดภัยส�ำหรับวัยรุ่นทั้งในระดับปัจเจกไปจนถึงระดับสังคม                       ถึงขั้นน�ำไปสู่กำรตัดสินใจที่ผิดพลำดง่ำยในช่วงวัยรุ่นที่วิกฤตได้ ในชุมชนที่จัดกำรได้

                                   เป็นเรื่องที่ต้องมีกำรถกและท�ำควำมเข้ำใจเพื่อหำวิธีกำรที่เหมำะสมในกำรจัดกำร                     ควรมีพื้นที่และกระบวนกำรรองรับควำมปลอดภัยทั้งใจ กำย ในหลำยระดับ




            106                                                                                                                                                                                                                  107
   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111