Page 108 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 108

สภาพแวดล้อมที่มีความปลอดภัยทางจิตวิญญาณ ส�ำนักงำนปฏิรูประบบสุขภำพ                                 สร้างสภาพแวดล้อมที่ก่อเกิดสุนทรียะ ให้วัยรุ่นได้มีโอกำสสัมผัสควำมงำมผ่ำน
                                   (สปรส.) ได้ให้ควำมหมำยของค�ำว่ำสุขภำวะทำงจิตวิญญำณว่ำ “สุขภำวะทำงจิต                            ประสำทสัมผัสทั้ง 5 เช่น ได้อยู่ในสภำพแวดล้อมที่มีวรรณกรรมดีๆ มีบทกวี

                                   วิญญำณ = จิตวิญญำณหมำยถึงมีจิตสูง กล่ำวคือมีควำมดี ลดละควำมเห็นแก่ตัว”                          อันไพเรำะให้ดื่มด�่ำ มีวัดวำอำรำมที่งดงำม มีภำพเขียนที่มีศิลปะ ได้ดู ได้เห็น ได้ยิน
                                                                                                                                   บทเพลง ศิลปะพื้นบ้ำน บทละครและกำรแสดงที่ดี รวมถึงได้มีเวลำใคร่ครวญ หรือ

                                     สิ่งแวดล้อมที่มีควำมปลอดภัยทำงจิตวิญญำณ ส�ำหรับวัยรุ่นคนหนึ่งนั่นอำจ                          น้อมน�ำจิตให้พบควำมงำมและสุขศำนติภำยในใจตน สภำพแวดล้อมที่ก่อให้เกิด
                                   หมำยถึงว่ำ เรำจะสร้ำงสรรค์สิ่งแวดล้อมอย่ำงไร ให้เอื้อต่อกำรที่วัยรุ่นได้มี                      สุนทรียะทั้งหมดที่กล่ำวมำนี้ สำมำรถสร้ำงสรรค์ให้มีได้ทั้งในโรงเรียนและชุมชน

                                   ประสบกำรณ์ที่เข้ำถึงสภำวะลดละควำมเห็นแก่ตัว เรียนรู้ถึงคุณค่ำของสรรพสิ่ง
                                   สัมผัสถึงควำมจริง ควำมงำมอันเป็นแก่นแท้ของปัญญำ เพื่อกำรเข้ำถึงสิ่งสูงสุด                           กำรสร้ำงสภำพแวดล้อมที่มีพลวัตร พัฒนำเปลี่ยนแปลง เปิดโอกำสให้เกิด

                                   คือ กำรอุทิศตนเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน และปลอดภัยเมื่อมีควำมคิดต่ำง                       ควำมแตกต่ำงหลำกหลำย ไม่ซ�้ำซำกจ�ำเจ กระตุ้นให้เกิดกำรสังเกต กระตุกให้เกิด
                                   หรือกล้ำยืนหยัดท�ำสิ่งที่เห็นว่ำถูกต้อง เป็นต้น                                                 กำรคิด กำรสื่อสำร กำรเห็นต่ำง ควำมร่วมมือและกำรสร้ำงสิ่งใหม่



                                     ส�ำนักงำนกองทุนสนับสนุนกำรสร้ำงเสริมสุขภำพ (สสส.) เลือกใช้ค�ำว่ำ “ปัญญำ”                          กำรสร้ำงสภำพแวดล้อมและโอกำสในกำรเรียนรู้สภำวะภำยในของตนเองและ

                                   แทนค�ำว่ำ “จิตวิญญำณ” โดย รศ.ดร.ดุษฎี โยเหลำและคณะ ได้ทบทวนวรรณกรรม                             จัดกำรควำมเครียดแก่วัยรุ่น มีพื้นที่กิจกรรมและเวลำให้วัยรุ่นได้ใคร่ครวญและจัดกำร
                                   และพัฒนำเครื่องมือประเมินสุขภำวะทำงจิตวิญญำณหรือปัญญำขึ้น โดยจัดแบ่งเป็น                        ตนเองได้หลำกหลำย ตั้งแต่กำรฝึกสติ ฝึกสะท้อนคิด (reflective) ฝึกสอนตนเอง

                                   7 องค์ประกอบ ได้แก่ กล้ำยืนหยัดท�ำในสิ่งที่ถูกต้อง เมตตำกรุณำ มีเป้ำหมำยและ                     (self lesson) และกำรระบำยควำมเครียด
                                   พอเพียง ให้ควำมส�ำคัญกับควำมเป็นมนุษย์ อ่อนน้อมถ่อมตน ให้อภัยและมีควำม

                                   เป็นมิตร (รำยงำนสุขภำพคนไทยสถำบันวิจัยประชำกรและสังคม มหำวิทยำลัยมหิดล)
                                   ซึ่งทั้ง 7 องค์ประกอบนี้คือสิ่งที่เรำล้วนคำดหวังจำกวัยรุ่นทุกคนเช่นเดียวกัน                     4.  สร้างประสบการณ์  active learning
                                                                                                                                       คือกำรสร้ำงโอกำสให้เด็กได้เรียนรู้ผ่ำนประสบกำรณ์ตรงโดยใช้ร่ำงกำยและควำม

                                                                                                                                   คิดอย่ำงจริงจัง

                                                                                กล้ายืนหยัดท�าในสิ่งที่ถูกต้อง
                                                                                                                                       กำรพัฒนำโครงข่ำยของสมองเกิดจำกกำรมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
                                                                                เมตตากรุณา
                       “จิตวิญญาณ”                                                                                                 ผ่ำนประสำทสัมผัสทั้งห้ำ กำรให้วัยรุ่นเอำแต่เรียนในแบบเดิม คือ อ่ำน เขียน
                                                                                มีเป้าหมายและพอเพียง
                                                                                                                                   ท่องหนังสือ เป็นกำรเรียนแบบ passive learning ที่ใช้ประสำทสัมผัสไม่ครบส่วน
                                                                                ให้ความส�าคัญกับความเป็นมนุษย์                     นอกจำกท�ำให้บรรลุวัตถุประสงค์แรกคือจดจ�ำสิ่งที่เรียนได้ยำก ที่ร้ำยกว่ำนั้นคือสมอง

                                                                                อ่อนน้อมถ่อมตน                                     ในส่วนคิดหรือทักษะสมอง EF ซึ่งจะแข็งแรงขึ้นจำกกำรได้ฝึกในสถำนกำรณ์ใหม่ๆ อยู่

                                                                                ให้อภัย                                            เสมอจะเกิดขึ้นได้น้อย

                                                                                มีความเป็นมิตร





            108                                                                                                                                                                                                                  109
   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113