Page 70 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 70

พัฒนำกำร 4 ด้ำนของวัยรุ่น




                                          •  กำรเจริญเติบโตเป็นไปอย่ำงรวดเร็ว (growth spurt) เห็นชัดเจนทั้ง                                              •  เป็นวัยของกำรเข้ำสังคมที่กว้ำงออกไปจำกครอบครัว จับกลุ่มเพื่อนและผูกพันกับ
                                            ส่วนสูงและน�้ำหนัก                                                                                             เพื่อนในกลุ่มอย่ำงแน่นแฟ้น
                         ด้านร่างกาย                                                                                                     ด้านสังคม
                          Physical        •  สัดส่วนของร่ำงกำยเปลี่ยนแปลง อัตรำกำรเติบโตของอวัยวะแต่ละส่วนถึง                             Social         •  มีกำรเปลี่ยนแปลงสถำนภำพและบทบำททำงสังคม ต้องกำรให้ตนเป็นที่รู้จักใน
                                            จุดสูงสุดของพัฒนำกำรในเวลำที่แตกต่ำงกัน รูปร่ำงจึงยังไม่ได้สัดส่วน                                             ฐำนะบุคคลคนหนึ่ง พยำยำมประพฤติปฏิบัติตำมกฎเกณฑ์และค่ำนิยมของสังคม

                                          •  ช่วงต้นของวัยที่อัตรำเร็วในกำรเจริญเติบโตของร่ำงกำยแตกต่ำงกัน รูปหน้ำ                                       •  แสวงหำ “idol” หรือคนที่อยำกเป็น เพื่อเป็นต้นแบบให้เดินตำม
                                            รูปร่ำงยังไม่ได้สัดส่วน เป็นช่วง awkward age กิริยำท่ำทำงจึงเคอะเขิน                                         •  กำรเปลี่ยนแปลงทำงสังคมของวัยรุ่นเกิดจำกอิทธิพลของกลุ่มเพื่อนร่วมวัย
                                            งุ่มง่ำม ไม่เรียบร้อย                                                                                          กำรเรียนรู้บทบำททำงเพศและพัฒนำกำรทำงสังคมระหว่ำงเพศ กำรรวมกลุ่ม
                                          •  เป็นวัยที่มีพัฒนำกำรทำงเพศขั้นปฐมภูมิ อวัยวะที่ท�ำหน้ำที่ในกำรสืบพันธุ์                                       ทำงสังคม ค่ำนิยมใหม่ในกำรคบเพื่อนและกำรยอมรับทำงสังคม กำรนับถือวีรบุรุษ

                                            โดยตรงพัฒนำทั้งเพศชำยและเพศหญิง
                                          •  ขั้นทุติยภูมิเปลี่ยนแปลงลักษณะทำงร่ำงกำยแตกต่ำงชัดเจนระหว่ำงเพศ
                                            ชำยและหญิง
                                          •  ระบบไหลเวียนโลหิตและหำยใจเปลี่ยนแปลง น�้ำหนักของหัวใจเพิ่ม ท�ำให้                                           •  สำมำรถพัฒนำควำมคิดถึงระดับสูงสุด คือขั้นปฏิบัติกำรคิดด้วยนำมธรรม

                                            ควำมดันโลหิตสูงกว่ำวัยเด็ก ปอดมีขนำดและน�้ำหนักเพิ่ม อัตรำกำรเต้น                                              (formal operational stage) ซึ่งมีลักษณะส�ำคัญ 7 ประกำรคือ
                                            ของหัวใจช้ำกว่ำวัยเด็ก                                                                     ด้านสติปัญญา         1.  กำรคิดแบบใช้เหตุผลเชิงตรรกะจำกข้อเสนอ (proportional logics)
                                                                                                                                        Cognitive
                                                                                                                                                             สำมำรถสรุปผลเชิงตรรกะจำกกำรพิจำรณำเงื่อนไขต่ำงๆ ที่ก�ำหนด
                                                                                                                                                            2.  กำรคิดแบบใช้เหตุผลเชิงตรรกศำสตร์ในกำรรวมกลุ่ม (combinational
                                                                                                                                                             logics) คือกำรคิดถึงควำมเป็นไปได้ในกำรรวมกลุ่มตัวแปรต่ำงๆ เพื่อค้นหำ
                                          •  มีอำรมณ์รุนแรง ไม่มั่นคง                                                                                        ทำงเลือกต่ำงๆ ที่ต้องกำร

                                          •  ระดับอำรมณ์ไม่คงที่ แปรปรวน แปรเปลี่ยนจำกอำรมณ์หนึ่งไปยังอีก
                     ด้านจิตใจและอารมณ์                                                                                                                     3.  กำรแยกควำมจริงกับควำมเป็นไปได้ (seperating the real and the
                    Mind and Emotional      อำรมณ์ที่แตกต่ำงกันมำกได้อย่ำงรวดเร็ว แสดงออกเป็นควำมสับสน                                                        possible)  สำมำรถแยกตัวเองออกจำกโลกแห่งควำมจริง ยอมรับค�ำถำม
                                            อ่อนไหว                                                                                                          ที่ไม่ตรงกับควำมจริงได้ จึงสำมำรถตั้งสมมติฐำนและทดสอบสมมติฐำนได้
                                          •  นอกจำกสภำพสังคมในปัจจุบัน ช่วงวัยนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตต้อง                                            4.  กำรคิดเชิงนำมธรรม (abstract  thought) สำมำรถเข้ำใจควำมคิดรวบยอด
                                            ปรับตัวเรียนรู้บทบำทหน้ำที่เป็นผู้ใหญ่ ต้องเริ่มตัดสินใจที่จะเลือกอำชีพ                                          เชิงนำมธรรมต่ำงๆ ได้กว้ำงขวำงลึกซึ้ง

                                            เพื่อเตรียมตัวส�ำหรับอนำคต ขณะเดียวกันเกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำง                                                     5. ทักษะกำรแก้ปัญหำ (probelm -solving skill) สำมำรถใช้วิธีต่ำงๆ แก้ปัญหำ
                                            ร่ำงกำย ทั้งภำยในและภำยนอก และกำรท�ำงำนของต่อมฮอร์โมนต่ำงๆ                                                       ตั้งและทดสอบสมมมติฐำนอย่ำงเป็นระบบได้
                                            ในร่ำงกำยที่ส่งผลกระทบต่ออำรมณ์ทั้งทำงตรงและทำงอ้อม                                                             6.  สำมำรถคิดเกี่ยวกับกำรคิด (thinking about thinking) มีควำมสำมำรถ

                                          •  วัยรุ่นบำงกลุ่มที่ไม่เกิดวิกฤติกำรณ์ทำงอำรมณ์ มักเป็นวัยรุ่นที่มีพ่อแม่เข้ำใจ                                   ในกำรคิดเกี่ยวกับกระบวนกำรคิดและควำมคิดของตนได้
                                            และคอยให้ก�ำลังใจ หรือเป็นวัยรุ่นที่ได้เรียนรู้พัฒนำกำรของตนเองจึงรู้จัก                                        7.  กำรหยั่งลึกด้ำนวรรณกรรม (literacy insight) สำมำรถเข้ำใจควำมหมำย
                                            กำรปรับตัว สำมำรถยอมรับข้อดีและข้อด้อยของตัวเอง
                                                                                                                                                             ของภำษำในหลำยแง่มุม และควำมหมำยแฝงของภำษำได้





            70                                                                                                                                                                                                                    71
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75