Page 71 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 71

พัฒนำกำร 4 ด้ำนของวัยรุ่น




 •  กำรเจริญเติบโตเป็นไปอย่ำงรวดเร็ว (growth spurt) เห็นชัดเจนทั้ง   •  เป็นวัยของกำรเข้ำสังคมที่กว้ำงออกไปจำกครอบครัว จับกลุ่มเพื่อนและผูกพันกับ
   ส่วนสูงและน�้ำหนัก                  เพื่อนในกลุ่มอย่ำงแน่นแฟ้น
 ด้านร่างกาย         ด้านสังคม
 Physical  •  สัดส่วนของร่ำงกำยเปลี่ยนแปลง อัตรำกำรเติบโตของอวัยวะแต่ละส่วนถึง   Social  •  มีกำรเปลี่ยนแปลงสถำนภำพและบทบำททำงสังคม ต้องกำรให้ตนเป็นที่รู้จักใน
   จุดสูงสุดของพัฒนำกำรในเวลำที่แตกต่ำงกัน รูปร่ำงจึงยังไม่ได้สัดส่วน    ฐำนะบุคคลคนหนึ่ง พยำยำมประพฤติปฏิบัติตำมกฎเกณฑ์และค่ำนิยมของสังคม

 •  ช่วงต้นของวัยที่อัตรำเร็วในกำรเจริญเติบโตของร่ำงกำยแตกต่ำงกัน รูปหน้ำ    •  แสวงหำ “idol” หรือคนที่อยำกเป็น เพื่อเป็นต้นแบบให้เดินตำม
   รูปร่ำงยังไม่ได้สัดส่วน เป็นช่วง awkward age กิริยำท่ำทำงจึงเคอะเขิน    •  กำรเปลี่ยนแปลงทำงสังคมของวัยรุ่นเกิดจำกอิทธิพลของกลุ่มเพื่อนร่วมวัย
   งุ่มง่ำม ไม่เรียบร้อย               กำรเรียนรู้บทบำททำงเพศและพัฒนำกำรทำงสังคมระหว่ำงเพศ กำรรวมกลุ่ม
 •  เป็นวัยที่มีพัฒนำกำรทำงเพศขั้นปฐมภูมิ อวัยวะที่ท�ำหน้ำที่ในกำรสืบพันธุ์     ทำงสังคม ค่ำนิยมใหม่ในกำรคบเพื่อนและกำรยอมรับทำงสังคม กำรนับถือวีรบุรุษ

   โดยตรงพัฒนำทั้งเพศชำยและเพศหญิง
 •  ขั้นทุติยภูมิเปลี่ยนแปลงลักษณะทำงร่ำงกำยแตกต่ำงชัดเจนระหว่ำงเพศ
   ชำยและหญิง
 •  ระบบไหลเวียนโลหิตและหำยใจเปลี่ยนแปลง น�้ำหนักของหัวใจเพิ่ม ท�ำให้   •  สำมำรถพัฒนำควำมคิดถึงระดับสูงสุด คือขั้นปฏิบัติกำรคิดด้วยนำมธรรม

   ควำมดันโลหิตสูงกว่ำวัยเด็ก ปอดมีขนำดและน�้ำหนักเพิ่ม อัตรำกำรเต้น     (formal operational stage) ซึ่งมีลักษณะส�ำคัญ 7 ประกำรคือ
   ของหัวใจช้ำกว่ำวัยเด็ก  ด้านสติปัญญา     1.  กำรคิดแบบใช้เหตุผลเชิงตรรกะจำกข้อเสนอ (proportional logics)
                    Cognitive
                                         สำมำรถสรุปผลเชิงตรรกะจำกกำรพิจำรณำเงื่อนไขต่ำงๆ ที่ก�ำหนด
                                        2.  กำรคิดแบบใช้เหตุผลเชิงตรรกศำสตร์ในกำรรวมกลุ่ม (combinational
                                         logics) คือกำรคิดถึงควำมเป็นไปได้ในกำรรวมกลุ่มตัวแปรต่ำงๆ เพื่อค้นหำ
 •  มีอำรมณ์รุนแรง ไม่มั่นคง             ทำงเลือกต่ำงๆ ที่ต้องกำร

 •  ระดับอำรมณ์ไม่คงที่ แปรปรวน แปรเปลี่ยนจำกอำรมณ์หนึ่งไปยังอีก
 ด้านจิตใจและอารมณ์                     3.  กำรแยกควำมจริงกับควำมเป็นไปได้ (seperating the real and the
 Mind and Emotional    อำรมณ์ที่แตกต่ำงกันมำกได้อย่ำงรวดเร็ว แสดงออกเป็นควำมสับสน         possible)  สำมำรถแยกตัวเองออกจำกโลกแห่งควำมจริง ยอมรับค�ำถำม
   อ่อนไหว                               ที่ไม่ตรงกับควำมจริงได้ จึงสำมำรถตั้งสมมติฐำนและทดสอบสมมติฐำนได้
 •  นอกจำกสภำพสังคมในปัจจุบัน ช่วงวัยนี้เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตต้อง      4.  กำรคิดเชิงนำมธรรม (abstract  thought) สำมำรถเข้ำใจควำมคิดรวบยอด
   ปรับตัวเรียนรู้บทบำทหน้ำที่เป็นผู้ใหญ่ ต้องเริ่มตัดสินใจที่จะเลือกอำชีพ        เชิงนำมธรรมต่ำงๆ ได้กว้ำงขวำงลึกซึ้ง

   เพื่อเตรียมตัวส�ำหรับอนำคต ขณะเดียวกันเกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำง      5. ทักษะกำรแก้ปัญหำ (probelm -solving skill) สำมำรถใช้วิธีต่ำงๆ แก้ปัญหำ
   ร่ำงกำย ทั้งภำยในและภำยนอก และกำรท�ำงำนของต่อมฮอร์โมนต่ำงๆ        ตั้งและทดสอบสมมมติฐำนอย่ำงเป็นระบบได้
   ในร่ำงกำยที่ส่งผลกระทบต่ออำรมณ์ทั้งทำงตรงและทำงอ้อม        6.  สำมำรถคิดเกี่ยวกับกำรคิด (thinking about thinking) มีควำมสำมำรถ

 •  วัยรุ่นบำงกลุ่มที่ไม่เกิดวิกฤติกำรณ์ทำงอำรมณ์ มักเป็นวัยรุ่นที่มีพ่อแม่เข้ำใจ       ในกำรคิดเกี่ยวกับกระบวนกำรคิดและควำมคิดของตนได้
   และคอยให้ก�ำลังใจ หรือเป็นวัยรุ่นที่ได้เรียนรู้พัฒนำกำรของตนเองจึงรู้จัก      7.  กำรหยั่งลึกด้ำนวรรณกรรม (literacy insight) สำมำรถเข้ำใจควำมหมำย
   กำรปรับตัว สำมำรถยอมรับข้อดีและข้อด้อยของตัวเอง
                                         ของภำษำในหลำยแง่มุม และควำมหมำยแฝงของภำษำได้





 70                                                                                                           71
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76