Page 126 - คู่มือ Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย
P. 126

กับกำรน�ำสิ่งต่ำงๆ มำวัด เปรียบเทียบควำมสูง ควำมยำว กำรติดตัวเลขตำมขั้น
                                     บันได เมื่อท�ำเป็นประจ�ำ เด็กจะเกิดกำรรับรู้ในกำรกะประมำณ ในบริเวณที่แสงสำด

                                     เข้ำมำ เด็กจะเห็นเงำของสิ่งที่แสงตกกระทบ ได้เห็นเงำตัวเอง เวลำเปลี่ยนแสงเงำ                       สรุป
                                     เปลี่ยนไป ให้เด็กได้สนุกกับกำรท�ำกิจกรรมที่เกี่ยวกับแสงเงำ กำรสะท้อนแสง กำร

                                     ที่แสงส่องผ่ำนวัสดุต่ำงกัน กำรท�ำตำรำงหลำกหลำยแบบบนพื้น เพื่อให้เด็กคิดวิธี
                                     เล่นด้วยตัวเอง ฯลฯ
                                                                                                                                    •  เด็กรับสัมผัสจำกสภำพแวดล้อมด้วยประสำทสัมผัสทุกด้ำน สภำพแวดล้อมจึงมีอิทธิพลและส่งผลต่อ

                                     5) ให้ควำมส�ำคัญกับพื้นที่ส�ำหรับแสดง / น�ำเสนอผลงำน                                             พัฒนำกำรทั้งกำรเรียนรู้ อำรมณ์ ควำมรู้สึก และกำรกระท�ำ
                                       Presentation Area                                                                            •  สภำพแวดล้อมเป็นครู ไม่สอนแต่เรียนรู้ เพรำะเด็กเรียนรู้อยู่ตลอดเวลำ เรียนรู้มำกกว่ำที่ผู้ใหญ่สอน และ

                                       ในกำรพัฒนำทักษะสมอง EF นั้น ต้องให้ควำมส�ำคัญกับพื้นที่ในกำรจัดแสดง                            ยิ่งเรียนรู้มำกขึ้นจำกกำรค้นพบ จำกกำรได้ประสบกำรณ์ตรงจำกสภำพแวดล้อมรอบตัว

                                     และน�ำเสนอผลงำนเด็ก เพรำะเป็นพื้นที่ที่เด็กจะน�ำเสนอผลที่เกิดจำกทักษะกำร                       •  จัดสภำพแวดล้อมให้มีพื้นที่ที่เด็กจะได้พัฒนำกำรท�ำงำนของระบบประสำทส่วนกลำง ซี่งรับรู้ผ่ำนประสำท
                                     ท�ำงำน ขณะน�ำเสนองำนเด็กก็จะได้ฝึกฝนทักษะในกำรก�ำกับตัวเอง ต้องมีสมำธิ                           สัมผัส จึงควรมีเครื่องเล่นและอุปกรณ์ให้เด็กได้ มุด ลอด ไต่ โหน กระโดด กลิ้ง ได้รับสัมผัส ได้รับรู้ผ่ำน

                                     ควบคุมควำมตื่นเต้น และประเมินกำรท�ำงำนของตนเอง ขณะเดียวกันพื้นที่นี้ก็จะ                         กล้ำมเนื้อ-เอ็น-ข้อต่อ และระบบกำรทรงตัว
                                     เป็นพื้นที่ที่เด็กได้เรียนรู้ และเห็นควำมหลำกหลำยจำกผลงำนและกำรท�ำงำนของ                       •  จัดสภำพแวดล้อมที่ปลอดภัยแต่มีควำมเสี่ยงเพื่อกระตุ้นท้ำทำยให้เด็กได้ใช้ทักษะด้ำนต่ำงๆ โดยค�ำนึงถึง

                                     เพื่อน รู้จักยอมรับและชื่นชมผลงำนของผู้อื่น                                                      พัฒนำกำรตำมวัย ไม่มำกไปหรือน้อยไป เพื่อให้เด็กได้ใช้สมรรถนะที่ตัวเองมีอย่ำงเต็มที่
                                       กำรน�ำเสนองำนของเด็กนั้นครูต้องให้ควำมส�ำคัญกับผลงำนของเด็กทุกคน และ                         •  จัดสภำพแวดล้อมทำงอำรมณ์และสังคม โดยต้องตอบสนองควำมต้องกำรของเด็กเรื่องกำรใช้งำน จัด

                                     ในกรณีที่พื้นที่จ�ำกัด ครูต้องใช้กำรติดผลงำนที่หมุนเวียนจนครบของเด็กทุกคน                        สถำนที่ และอุปกรณ์ที่เด็กสำมำรถใช้งำนได้สะดวก มีพื้นที่ส�ำหรับท�ำกิจกรรมกลุ่มใหญ่ กลุ่มเล็ก
                                     และถ้ำจะให้สมบูรณ์ควรน�ำเสนอที่มำของผลงำนด้วย เพื่อให้เด็กได้ทบทวน                               รำยบุคคล และมุมส่วนตัวที่เงียบสงบ

                                     กระบวนกำร หรือขั้นตอนเป็นล�ำดับก่อนที่ผลงำนจะส�ำเร็จ ได้เห็นว่ำกำรจะประสบ                      •  จัดสภำพแวดล้อมที่อบอุ่น ปลอดภัย ปรำศจำกควำมกดดันจำกอ�ำนำจของผู้ใหญ่
                                     ควำมส�ำเร็จได้นั้นต้องใช้เวลำ ควำมตั้งใจ ควำมคิดสร้ำงสรรค์ ผ่ำนกำรลองผิดลอง                    •  จัดสภำพแวดล้อมทำงควำมคิดโดยให้เด็กใกล้ชิดกับธรรมชำติให้มำก เพรำะเป็นกำรเรียนรู้แบบปลำยเปิด

                                     ถูก ได้แลกเปลี่ยนประสบกำรณ์ระหว่ำงเพื่อนเด็กด้วยกัน ให้เด็กเห็นว่ำเป็นกำรเรียน                   และท�ำให้เด็กเข้ำใจสัจธรรมของชีวิตได้อย่ำงง่ำยๆ
                                     รู้ที่ผ่ำนกิจกรรมที่หลำกหลำย เช่น กำรสังเกต กำรส�ำรวจ กำรทดลอง เป็นต้น                         •  กำรจัดสภำพแวดล้อมที่ให้ทุกย่ำงก้ำวคือกำรเรียนรู้ (Rich Environment) จะท�ำให้เกิดกำรพัฒนำ
                                                                                                                                      ทักษะสมอง EF




                                     เพราะเด็กเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เด็กจึงไม่ได้เรียนรู้จากครูผู้สอนเท่านั้น แต่เด็กยัง
                                     เรียนรู้จากเพื่อนๆ และยังเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในห้องเรียนนั้นจึงเปรียบ

                                     เสมือนมี “ครู” อยู่ถึง 3 คน นั่นเอง








            126                                                                                                                                                                                                                  127
   121   122   123   124   125   126   127   128   129   130   131