Page 153 - คู่มือ Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย
P. 153

Time Out      หากวิเคราะห์หลักการท�างานตาม Model 5 T พบว่า Time Out นั้น

   กำร Time Out เด็ก คือกำรจับเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมำะสมแยกออกไป   •  ไม่ได้มีกำรตั้งพฤติกรรมเป้ำหมำย (Target Behavior) ซึ่งตำมหลักกำรแล้ว
 จำกกลุ่มและให้นั่งอยู่คนเดียว อำจจะให้นั่งที่มุมห้อง หรือจัดสถำนที่เฉพำะ     จะต้องมีกำรก�ำหนดพฤติกรรมที่เหมำะสม เป็นพฤติกรรมที่ผู้เลี้ยงดูสำมำรถ

 เอำไว้ เพื่อให้ส�ำนึกผิด นั่งคิดว่ำตนเองแสดงพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมำะสมและ     สอนเด็กให้ฝึกปฏิบัติได้ แต่กำรให้ “เด็กส�ำนึกผิด” ไม่ใช่พฤติกรรมที่เหมำะสม
 สงบสติอำรมณ์ โดยมีกำรก�ำหนดเวลำว่ำจะให้เด็กนั่งแยกอยู่คนเดียวกี่นำที เช่น     ทั้งยังเป็นกำรฝืนธรรมชำติกำรเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย และเป็น “นำมธรรม”

 “หนูผลักเพื่อนล้ม ไปนั่ง Time Out 5 นำทีนะคะ แล้วค่อยกลับมำเมื่อครบ     ไม่ใช่เป็นพฤติกรรมที่ผู้เลี้ยงดูสำมำรถสอนให้ฝึกปฏิบัติได้ เนื่องจำกเด็กยัง
 5 นำทีแล้ว”     ไม่สำมำรถส�ำนึกผิดได้ในขณะที่ตนเองก�ำลังมีควำมรู้สึกไม่ปลอดภัย
                 นอกจำกนั้นเด็กอำจใช้เป็นโอกำสในกำรท�ำผิดได้ เช่น ตั้งใจแกล้งเพื่อนแล้ว

   ลองคิดดูว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อครบ 5 นาทีแล้วเด็กยังไม่สงบสติอารมณ์      ขอครูไปนั่ง Time Out เพื่อแสดงให้ครูเห็นว่ำตนเองรู้สึกผิด

   หรือยังไม่ส�านึก  •  ไม่มีกำรสอน (Teach) และขำดควำมเชื่อใจ (Trust) ของผู้เลี้ยงดูและเด็กปฐมวัย
                 Time Out จึงไม่ใช่กำรสร้ำงวินัยเชิงบวก เพรำะเป็นกำรควบคุม ไม่ใช่กำรสร้ำง

   ถ้ำให้เด็กนั่งส�ำนึกผิดต่อไปอีกครั้งหนึ่งก็จะยิ่งท�ำให้เด็กรู้สึกไม่พอใจมำกขึ้น และ    วินัยเชิงบวก ไม่ใช่กำรสร้ำงแรงจูงใจเพื่อให้เกิดจิตส�ำนึก และยังเป็นวิธีกำร
 กระตุ้นให้เด็กแสดงควำมก้ำวร้ำวหรือตัดสินใจท�ำพฤติกรรมที่ผู้เลี้ยงดูต้องกำร     เลี้ยงดูที่สำมำรถยับยั้งพัฒนำกำรทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยอีกด้วย

 เพรำะกลัว แต่ไม่ได้เกิดจำกกำรเรียนรู้ที่จะจัดกำรกับอำรมณ์ของตนเองและ
 ตัดสินใจท�ำพฤติกรรมที่เหมำะสม    กำรสอนใน Model 5 T ต้องเป็นกำรสื่อสำรอย่ำงมีประสิทธิภำพ คือกำรให้
               ข้อมูลที่เพียงพอต่อกำรท�ำควำมเข้ำใจว่ำพฤติกรรมเป้ำหมำยคืออะไร และแสดงออก

               มำอย่ำงไร รวมถึงต้องเป็นกำรสื่อสำรที่ต้องตอบสนองควำมต้องกำรพื้นฐำน
               ทำงจิตใจของเด็กไปพร้อมๆ กันด้วย เพื่อจูงใจให้เด็กตัดสินใจและท�ำพฤติกรรม

               เป้ำหมำยด้วยตัวของเขำเอง แต่กำร Time Out เด็กเพื่อให้ส�ำนึกผิด เป็นกำรสื่อสำร
               ที่ให้ข้อมูลไม่เพียงพอที่เด็กจะสร้ำงภำพกำรส�ำนึกผิดได้ ว่ำคืออะไร และต้องคิด

               ต้องท�ำอย่ำงไร นอกจำกนี้ยังไม่สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรพื้นฐำนทำง
               จิตใจของเด็กได้อีกด้วย เพรำะในขณะที่ผู้เลี้ยงดูต้องกำรให้เด็กได้ไตร่ตรอง ส�ำรวจ
 Time Out
               พฤติกรรมของตนเองนั้น ผู้เลี้ยงดูกลับไปกระตุ้นสมองลิมบิคให้ท�ำงำนด้วยกำร
               ท�ำให้เด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย ท�ำให้สภำวะอำรมณ์ของเด็กไม่พร้อมที่จะคิดได้

                 และที่ส�ำคัญ กำรเพิ่มจ�ำนวนนำทีและจ�ำนวนครั้งที่ให้เด็กนั่งส�ำนึกผิดก็เปรียบ
               เสมือนกำรลงโทษ เพรำะเป็นกำรควบคุมพฤติกรรมที่ไม่เหมำะสมที่ท�ำให้เด็ก

               มีควำมรู้สึกโกรธอำย ไม่พึงพอใจหรือเสียใจเพิ่มมำกขึ้น เป็นกำรท�ำลำยควำมเชื่อใจ
               และฐำนที่มั่นทำงใจของเด็ก ซึ่งนอกจำกจะเป็นกำรตัดโอกำสเด็กออกจำกกำร






 152                                                                                                         153
   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158