Page 262 - คู่มือ Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย
P. 262
• เด็กทุกคนรู้ที่เก็บสิ่งของ ของเล่น วัสดุและอุปกรณ์ที่เด็กสำมำรถหยิบใช้ได้ • ครูพบอุปสรรคอื่นๆ ที่ท�ำให้ขั้นตอนและกระบวนกำรสอนของครูและ
รู้เวลำ และวิธีกำรหยิบใช้ และจัดเก็บได้อย่ำงเหมำะสม ตำมตำรำง กระบวนกำรเรียนรู้ของเด็ก ไม่เป็นไปตำมแผนกิจกรรม หรือไม่
กิจวัตรประจ�ำวันที่ก�ำหนด หรือไม่ • ครูมีควำมคิดเห็นว่ำ กำรพัฒนำทักษะสมอง EF ในชั้นเรียนนี้จะต้องมีกำร
• ครูมีวิธีกำรสร้ำงวินัยเชิงบวกในกำรสื่อสำร มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กๆ เพื่อให้เกิด เปลี่ยนแปลง/ปรับปรุงแผนกิจกรรม/ขั้นตอนและกระบวนกำรสอน หรือไม่
กำรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมำะสม และส่งเสริมพฤติกรรมคำดหวัง
ในห้องเรียนปฐมวัย หรือไม่ นอกเหนือจำกพ่อแม่แล้ว ครูปฐมวัย นับได้ว่ำเป็นบุคคลหนึ่งที่มีควำมส�ำคัญ
อย่ำงยิ่งต่อชีวิตของเด็กปฐมวัย เพรำะเป็นผู้มีอิทธิพลในกำรส่งเสริมหรือยับยั้ง
2. การประเมินการสะท้อนความคิดหลังการสอน พัฒนำกำรของเด็กปฐมวัย และเป็นผู้มีส่วนในกำรสร้ำงเครือข่ำยเส้นใยประสำท
ที่จะกลำยเป็นบุคลิก ลักษณะนิสัย ควำมเชื่อ และทัศนคติของเด็กปฐมวัยที่มีต่อ
คือกำรทบทวนขั้นตอนและกระบวนกำรสอนของครูหลังท�ำกิจกรรม ว่ำเป็นไปตำม โลกใบนี้ต่อไปในอนำคต
กำรวำงแผนกิจกรรม หรือไม่ ดังนี้
เป็นข้อเท็จจริงที่ว่ำ เด็กปฐมวัยได้รับผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมกำร
• ครูสอนตำมขั้นตอนและกระบวนกำรได้ถูกต้อง ครบถ้วน ตรงตำมแผนกิจกรรม หรือไม่ แสดงออกของครู บทบำทในกำรสร้ำงบรรยำกำศกำรเรียนรู้และกำรจัดประสบกำรณ์
• ขั้นตอนและกระบวนกำรสอนของครู น�ำไปสู่กระบวนกำรเรียนรู้ของเด็ก กำรเรียนรู้ให้กับเด็ก ดังนั้นครูปฐมวัยที่ตระหนักถึงควำมส�ำคัญในบทบำทหน้ำที่ของ
ได้ตรงตำมแผน หรือไม่ ตนเองและจรรยำบรรณของควำมเป็นครู จะค�ำนึงถึงควำมสำมำรถของตนเอง
• ขั้นตอนและกระบวนกำรสอนของครู ช่วยส่งเสริมทักษะสมอง EF หรือไม่ หมั่นตรวจสอบและพัฒนำควำมสำมำรถของตนเองอยู่เสมอ ให้สำมำรถตอบสนอง
• ครูพบว่ำเด็กสำมำรถเข้ำใจและลงมือปฏิบัติได้ตำมวัตถุประสงค์ของกิจกรรม ควำมต้องกำรพื้นฐำนทำงร่ำงกำยและจิตใจของเด็ก และจัดกำรเรียนกำรสอน
ในแต่ละขั้นตอน หรือไม่ ที่ส่งเสริมพัฒนำกำรรอบด้ำนอย่ำงเป็นองค์รวม โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งกำรส่งเสริม
• ครูได้เพิ่มโอกำสพัฒนำทักษะสมอง EF ให้กับเด็กในชั้นเรียนตรงตำมแผน พัฒนำกำรทักษะสมอง EF ซึ่งเป็นทักษะที่จ�ำเป็นต่อกำรประสบควำมส�ำเร็จในชีวิต
กิจกรรม หรือไม่ แน่นอนว่ำกำรประเมินพัฒนำกำรของเด็กปฐมวัยมีควำมส�ำคัญ เพรำะจะเป็น
• ครูได้เพิ่มโอกำสพัฒนำทักษะสมอง EF อื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในแผนกิจกรรม หรือไม่ ข้อมูลให้รู้ว่ำ พัฒนำกำรของเด็กเป็นอย่ำงไร อยู่พัฒนำกำรขั้นใด และระดับใด ซึ่ง
• ขั้นตอนและกระบวนกำรสอนนี้ ท�ำให้เเกิดกระบวนกำรเรียนรู้ที่เหมำะสมกับ เป็นประโยชน์ต่อครูในกำรวำงแผนกำรสอนว่ำจะต้องส่งเสริมพัฒนำกำรเด็กด้ำนใด
อำยุ พัฒนำกำร และประสบกำรณ์ของเด็กแต่ละคนในชั้นเรียน หรือไม่ หรือต้องต่อยอดควำมรู้ ควำมสำมำรถของเด็กในเรื่องอะไรต่อไป แต่อย่ำงไรก็ตำม
• ครูพบปัจจัยเกื้อหนุนอื่นๆ หรือ เทคนิคใหม่ที่เอื้อให้ขั้นตอนและกระบวนกำร กำรประเมินแต่ผลลัพธ์จนมองข้ำมกำรประเมินกระบวนกำรสอนและกระบวนกำร
สอนของครู และกระบวนกำรเรียนรู้ของเด็ก เป็นไปตำมแผนกิจกรรม หรือไม่ เรียนรู้ จะส่งผลให้ครูขำดข้อมูลที่ส�ำคัญต่อกำรพัฒนำทักษะกำรจัดกระบวนกำร
• ครูพบว่ำควำมรู้ ควำมเข้ำใจ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์เดิมของเด็ก สอนและกระบวนกำรเรียนรู้ ที่ช่วยให้เด็กปฐมวัยบรรลุตำมเป้ำหมำยที่ก�ำหนดไว้
ในชั้นเรียน คือ อุปสรรคที่ท�ำให้ขั้นตอนและกระบวนกำรสอนของครูและ
กระบวนกำรเรียนรู้ของเด็ก ไม่เป็นไปตำมแผนกิจกรรม หรือไม่
262 263