Page 108 - Executive Functions ในเด็กวัย 7-12 ปี
P. 108
1) มุ่งรักษาความสัมพันธ์เป็นหลัก 2) มุ่งสร้างวินัยในตนเอง
หลักการของจิตวิทยาเชิงบวก คือ เด็กจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดผ่านความสัมพันธ์ที่ท�าให้ หนึ่งในเป้าหมายสูงสุดของการใช้เทคนิควินัยเชิงบวกคือการให้เด็กมีวินัยในตนเอง
พวกเขาได้รับการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ นั่นคือ เด็กต้องรู้สึก นั่นคือ เด็กสามารถเลือกและตัดสินใจที่จะมีพฤติกรรมที่เหมาะสมได้ด้วยตนเองแม้ยาม
ได้ถึงความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัยจากการเลี้ยงดู ซึ่งท�าให้พวกเขาเกิดความ ไม่มีพ่อแม่หรือครู เพราะไม่มีใครที่จะสามารถตามไปก�ากับควบคุมใครได้ตลอดเวลา
ไว้วางใจ มีความอบอุ่น และรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนอย่างใกล้ชิด เหมาะสมตาม หรือตลอดชีวิต ดังนั้นผู้ใหญ่ที่ใช้เทคนิควินัยเชิงบวกจะมุ่งเน้นไปที่การให้เด็กได้ฝึกการ
ช่วงวัย วางแผน การตัดสินใจในการเลือก และมีประสบการณ์จากการกระท�าของตนเอง
เพื่อสะสมประสบการณ์ว่าตนเองท�าได้ คิดได้ และเห็นคุณค่าในตนเอง (self-esteem,
ความไว้วางใจจะเกิดขึ้นได้เมื่อผู้ใหญ่แสดงความเคารพในตัวเด็ก ความเคารพมาจาก
ความตระหนักว่าเด็กก็มีความคิด ความรู้สึก และความต้องการเหมือนผู้ใหญ่ เพียงแต่ self-worth) โดยหลีกเลี่ยงการบังคับ การลงโทษ และควบคุมภายนอก เนื่องจากจะท�าให้
ความคิด ความรู้สึก และความต้องการของเด็กนั้นจะเป็นไปตามประสบการณ์และ เด็กเกิดความรู้สึกตรงกันข้าม คือเป็นคนไม่มีคุณค่า ไม่มีความสามารถ เมื่อเติบโตขึ้นมา
พัฒนาการทางจิตวิทยาสังคม (psychosocial development) ของแต่ละช่วงวัย จะกลายเป็นคนที่ไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจ และไม่ลงมือท�า
ซึ่งการเข้าใจพัฒนาการทางจิตใจของเด็ก เป็นปัจจัยส�าคัญที่จะท�าให้ผู้ใหญ่เข้าใจถึง การท�าให้รู้สึกกลัวแม้จะได้ผลในการควบคุมพฤติกรรมในบางครั้ง แต่ระยะยาวแล้ว
พฤติกรรมและตอบสนองเด็กได้อย่างเหมาะสม เช่น ผู้ใหญ่ที่ใช้เทคนิควินัยเชิงบวก จะส่งผลลบต่อสุขภาพจิตที่ดีของผู้ที่ถูกท�าให้กลัว เช่น การข่มขู่ การตะคอก การไล่ให้
จะมุ่งให้ความส�าคัญ (empowerment) ไปที่กระบวนการคิดและการท�างานของเด็ก ไปอยู่คนเดียว เหล่านี้ล้วนน�าไปสู่ความรู้สึกกลัว และไม่ได้พัฒนาให้เกิดทักษะจากภายใน
เพราะรู้ว่าเด็กในวัยประถมนั้นความรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถในการท�างานและ เนื่องจากแรงผลักดันที่ท�าให้อยากท�าพฤติกรรมหนึ่งๆ นั้นไม่ได้มาจากความรู้สึกที่อยากท�า
ประสบความส�าเร็จเรื่องการมีเพื่อนถือเป็นเรื่องส�าคัญ (senses of competence) แต่เป็นความรู้สึกที่กลัวจะไม่ปลอดภัยหากไม่ท�า ถือเป็นการควบคุมภายนอก ทั้งนี้การ
ดังนั้นการชมเด็กในวัยนี้จะเน้นไปที่กระบวนการของความส�าเร็จ เช่น “น้องแม่็คคอยกล้า มุ่งเน้นไปที่การใช้ของรางวัลล่อใจหรือการติดสินบนก็เป็นการควบคุมภายนอกเช่นเดียวกัน
มากที่เดินเข้าไปถามเพื่อนใหม่ว่าขอเล่นด้วยได้ไหม ครูภูมิใจในตัวหนูมากครับ” เพราะพฤติกรรมไม่ได้เกิดขึ้นจากผู้ท�าต้องการมีพฤติกรรมนั้นด้วยตนเองเช่นกัน
เมื่อพิจารณาร่วมกับความรู้จากประสาทวิทยาที่ว่า การปกป้องตนเองเพื่อเอาตัวรอด การควบคุมภายนอกไม่ว่าจะเป็นการขู่ การดุ การท�าร้ายร่างกาย หรือการใช้ของรางวัล
เป็นหน้าที่หลักของสมอง ที่พร้อมท�างานตั้งแต่แรกคลอด ณ วินาทีแรก จึงมีความ ล่อ จะส่งผลให้สมองมีปฏิกิริยาเพื่อให้เกิดพฤติกรรมหนึ่งๆ เมื่อมีปัจจัยภายนอกเหล่านี้
สอดคล้องกับหลักจิตวิทยาที่ว่า เด็กจะเรียนรู้ได้ดีบนความสัมพันธ์ที่ดี จากการที่ได้รับ มากระตุ้นเท่านั้น ซึ่งอาจจะน�าไปสู่ความรู้สึกเครียด ส่วนผลในระยะยาวนักประสาทวิทยา
ความรู้สึกปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้นผู้ที่ใช้เทคนิควินัยเชิงบวกจะหลีกเลี่ยง พบว่าความรู้สึกเครียดเรื้อรังหรือความรู้สึกด้านลบเหล่านี้จะผลิตสารเคมีที่ท�าลายเซลล์
การใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบที่ท�าร้ายร่างกายและจิตใจของเด็ก เช่น ตี หยิก เปรียบเทียบ ประสาทและกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผล เพราะเส้นทางการคิดของสมองคุ้นชินกับการ
ประชด ประจาน เพราะผู้ใหญ่ที่ใช้ความรุนแรงและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้จะท�าให้ มองโลกแง่ร้ายและการปกป้องตัวเอง ในขณะเดียวกันของรางวัลจะกลายเป็นแรงขับให้
เด็กรู้สึกว่าถูกคุกคามต่อความปลอดภัยและจะกระตุ้นความรู้สึกด้านลบ เช่น กลัว เกิดพฤติกรรม กล่าวคือสมองจะหลั่งสารความสุขเมื่อได้รับของรางวัล เมื่อไม่มีของรางวัล
วิตกกังวล เครียด ท�าให้เด็กตอบสนองด้วยสัญชาตญานของการปกป้องตนเองแทน พฤติกรรมหรือแรงขับอาจไม่เกิดขึ้น แต่เทคนิควินัยเชิงบวกมุ่งเน้นว่าสารความสุขนั้นควร
การใช้ทักษะสมอง EF หลั่งเมื่อตนเองลงมือท�า ค้นคว้า พยายามจนส�าเร็จ เกิดความรู้สึกปลื้มปิติ เมื่อสะสม
ความรู้สึกนี้ไปเรื่อยๆ เด็กจะเกิดความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและความสามารถ
จากการค้นพบว่า เราสามารถฝึกสมองให้มีวินัยในตัวเองได้จากการฝึกคิดและ
มีพฤติกรรมแบบเดิมซ�้าๆ นักการศึกษาจึงใช้เทคนิควินัยเชิงบวกเพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึก
ที่จะควบคุมตนเอง มีวินัยในตนเองจากภายใน
108 109