Page 49 - Executive Functions ในเด็กวัย 7-12 ปี
P. 49

เส้นทางเดินของข้อมูลในสมอง   ให้สมองส่วนเหตุผลท�างานร่วมกับส่วนอารมณ์จนชิน


   เส้นทางเดินของข้อมูลในสมองมี 2 เส้นทาง คือ low road เป็นเส้นทางต�่า และ      กฎของสมองที่ส�าคัญอีกข้อคือ ถ้าท�าซ�้าแล้วจะเกิดความเคยชิน สมองจะสั่งการให้

 high road เป็นเส้นทางสูง  เส้นทางต�่าคือการตอบสนองตามสัญชาตญาณและอารมณ์  ท�าสิ่งที่เคยท�าซ�้าๆ นั้นออกมาเลย โดยไม่มีการส่งข้อมูล ไม่คิดอะไรใหม่ ดังนั้น
 เพื่อให้มีชีวิตรอดและเพื่อปกป้องตัวเอง  เส้นทางสูงคือการคิดและควบคุมอารมณ์   สิ่งที่พ่อแม่ผู้เลี้ยงดูเด็กควรท�าคือ ช่วยกระตุ้นให้สมองส่วนเหตุผลของลูกท�างานร่วมกับ

 ก่อนแสดงพฤติกรรมออกมา  ส่วนอารมณ์จนชินเป็นนิสัย
   เมื่อมีสิ่งเร้าเข้ามา หากว่าสมองส่วนสัญชาตญาณกับสมองส่วนอารมณ์ไม่พอใจ แล้ว    เมื่อมีข้อมูลเข้ามาใหม่ แอนทีเรียร์ซิงกูเลตคอร์เทกซ์ (Anterior Cingulate

 รู้สึกว่าต้องปกป้องชีวิตไว้ จะแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมทันที ใช้ low road ทันที นี่คือ  Cortex : ACC) จะเป็นตัวเซ็นเซอร์แรก ส่งสัญญาณบอกว่า เหตุการณ์นี้ต้องใช้
 ที่มาของค�าพูดว่า “ท�าอะไรไม่มีเหตุผล” จึงเป็นเรื่องส�าคัญที่ต้องให้เด็กๆ ได้ฝึกฝนให้  ทักษะสมอง EF นะ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ต้องแก้ไขปัญหามาก แล้วแอนทีเรียร์ซิงกูเลต

 สมองส่วนเหตุผลควบคุมอารมณ์ให้นิ่งหรือสงบ ให้ได้ใช้ high road ซึ่งต่างจากสมอง  คอร์เทกซ์จะตัดสินว่า เหตุการณ์นี้เป็นแรงบันดาลใจเพียงพอหรือไม่ที่จะท�าต่อไป
 ส่วนสัญชาตญาณและสมองส่วนอารมณ์ที่ไม่ต้องฝึกก็ใช้ได้เลยตั้งแต่เด็กคลอดออกมา   ในภายภาคหน้า แรงบันดาลใจนั้นอาจจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เรื่องที่ต้องควบคุม

               อารมณ์ หรือเรื่องที่ท�าให้ชุ่มชื่นหัวใจก็ได้ แอนทีเรียร์ซิงกูเลตคอร์เทกซ์จะเป็นตัวที่คอย
 ตอบสนองความต้องการพื้นฐานก่อน  เตือน เมื่อมีเหตุการณ์อะไรก็จะดึง EF กลับมาใช้ได้โดยเร็ว


                 สมองส่วนลิมบิกมีหน้าที่แค่รับรู้ว่าพึงพอใจหรือไม่พึงพอใจในขณะนั้น แล้วสั่งให้
   ปัจจัยหนึ่งที่ท�าให้สมองส่วนอารมณ์สงบ คือเมื่อความต้องการต่างๆ ได้รับการ   ฮิปโปแคมปัสจ�าและเก็บไว้เป็นความจ�าระยะยาวก่อน โดยมีอีกส่วนที่เรียกว่าอมิกดาลา

 ตอบสนอง สมองส่วนอารมณ์จะอิ่ม สงบ ดังเช่นที่มาสโลว์ (Abraham Maslow    มาท�าหน้าที่เรียนรู้และตัดสินว่าฉันชอบสิ่งนี้หรือไม่ชอบ พึงพอใจหรือไม่พึงพอใจ
 นักจิตวิทยา) ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อความต้องการพื้นฐานทางร่างกายและจิตใจต่างๆ ได้รับ  แล้วสั่งให้ฮิปโปแคมปัสจ�าไว้

 การตอบสนอง เช่น ความรู้สึกปลอดภัย ความรู้สึกว่าได้รับความรัก ความรู้สึกว่าเป็น    หากว่าเราไปเจออะไรบนโลกใบนี้ แล้วอมิกดาลาไปดึงขึ้นมาว่าคลับคล้ายคลับคลา
 ส่วนหนึ่ง ความภาคภูมิใจในตนเอง การรู้จักตนเอง การขยายความต้องการของตนเอง   กับเหตุการณ์ที่เจอมาในอดีต ก็จะมีพฤติกรรมตอบสนองทันที โดยไม่ผ่านสมอง EF

 ช่วยเหลือคนอื่นได้ เป็นที่ยอมรับจากสังคม จะท�าให้สมองส่วนอารมณ์เต็มอิ่ม และสมอง  ตัวอย่างเช่นความระแวงหรือคิดไปเอง คือการท�างานของอมิกดาลาทั้งนั้น เวลาที่คิดไปเอง
 ส่วนเหตุผลท�างานได้อย่างดี หรือเป็นเส้นทางที่สวยงาม   เรามักจะคิดอะไรที่ร้ายแรงก่อนเสมอ “ฮิปโปแคมปัสจ�าไว้แค่นี้ใช่ไหม แต่ฉันจะต้องใส่


   แต่ปัญหาของเด็กที่ประสบอยู่ขณะนี้คือผู้ที่  อารมณ์ให้มากกว่านี้ เพราะว่าฉันจะต้องปกป้องชีวิตนี้เอาไว้”
 เกี่ยวข้องไม่ได้ตอบสนองความต้องการพื้นฐาน     หรือเวลาเด็กร้องไห้เมื่อเห็นคนที่ท�าให้กลัวหรือไม่สบายใจ จะเห็นการท�างานของ

 เหล่านั้นอย่างเพียงพอ แต่กลับย�้าเรื่องของการท่องจ�า   อมิกดาลาที่ก�าลังคุยกับฮิปโปแคมปัส“ดูหน้านี้ไว้นะ ฮิปโปแคมปัสจ�าหน้านี้นะ” ดังนั้นต่อไป
 มุ่งเรียนเขียนอ่าน จึงเท่ากับว่าเป็นการย�้าให้สมอง  ถ้าเด็กเจอหน้าคนนี้อีกก็จะระแวง ไม่อยากเข้าใกล้ หรือการที่คนเรารู้ว่าเวลาเจอใครควรจะ

 ส่วนอารมณ์ท�างานเพียงเพื่อจ�าไปสอบ เช่น ท่อง   ใช้น�้าเสียงอย่างไร พูดอะไร อย่างไร สิ่งนี้จะแสดงออกมาแบบกึ่งอัตโนมัติ ข้อดีของอมิกดาลา
 สูตรคูณ ท่อง A ถึง Z โดยไม่ได้ฝึกเรื่องอื่นๆ เลย  หรือสมองส่วนอารมณ์คือมีไว้เพื่อให้มนุษย์ปรับตัว สมองส่วนสัญชาตญาณมีไว้เพื่อท�าให้

               ชีวิตอยู่รอด และสมองส่วน EF มีไว้เพื่อท�าให้มนุษย์พัฒนาและอยู่ร่วมกันได้






 48                                                                                                           49
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54