สอบถามการใช้งานระบบ?

(02)913 - 7555 กด 4104

ฝ่ายบริการสมาชิกเว็บไซต์

ความคิดสร้างสรรค์ในห้องเรียน

เมื่อมีการออกแบบประสบการณ์การเรียนรู้ ครูสามารถวางแผน และกำหนดกรอบหลักสูตร พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ และตัวเลือกต่างๆเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนแก่นักเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในงานของตนเอง

หลักการที่จะช่วยให้ครูประสบความสำเร็จในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์แก่นักเรียน มีมากมาย ตัวอย่างเช่น

  1. สร้างสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์ ครูไม่ใช่เพียงทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ (Facilitate) หรือเป็นตัวกลางในการเรียนรู้ของเด็กๆ (Mediate) เท่านั้น หากแต่มีหน้าที่ส่งเสริมให้กำลังใจ หรือเป็น “นั่งร้าน” โดยเฉพาะด้วยการใช้คำพูดของครูเพื่อให้กำลังใจ และเป็นนั่งร่านที่ต่อให้สูงขึ้นๆ คำพูดที่มีความหมายที่คุณครูควรใช้ เช่น

          ครูเห็นด้วย เพราะ……

          ครูอยากเสริมว่า….

          ช่วยอธิบายเพิ่มอีกนิดได้ไหม…

          ครูอยากกลับไปที่เพื่อน…พูดเรื่อง…อีกหน่อยได้ไหม

          ครูสังเกตว่า….

          ที่หนูกำลังพูดหมายความว่าอย่างนี้ใช่ไหม….

2. ใช้การสะท้อนด้วยภาพ การสะท้อนความคิดเป็นกิจกรรมที่สำคัญอย่างยิ่งในการเรียนรู้ของนักเรียน เพื่อให้เด็กซึมซับข้อมูลได้ลึกซึ้งขึ้น มักเป็นการคิดเชิงสังเคราะห์ที่ลึกซึ้งขึ้น ดังนั้น ถ้าการสะท้อนการเรียนรู้แสดงออกเป็นภาพในชั้นเรียน เช่น คุณครูหรือนักเรียนบันทึกเป็นภาพ แบบ Visual Thinking เด็กทุกคนจะเรียนรู้ได้มากขึ้น การต่อยอดความคิดกับเพื่อนก็จะมากขึ้น 

3. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้สำรวจความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง

     ตัวอย่าง: นักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 ได้รับตัวอย่างหิน ให้เขาคิดค้นการทดลองว่าหินชิ้นนั้นเป็นหินชนิดใด ตามคำจำกัดความที่พวกเขาได้เรียนมาแล้ว นักเรียนหาวิธีของตนเองในการพิจารณาความแตกต่างในด้านความแข็ง สี และรูปร่างด้วยตนเอง

     ตัวอย่าง: ชั้นเรียนอนุบาล คุณครูให้ออกแบบสร้างหนังสือภาพใหม่ๆทุกสัปดาห์ เพื่อมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้เพื่อนในชั้นเรียนหรือผู้ใหญ่ในโรงเรียน หนังสือแต่ละเล่มให้นักเรียนแต่ละคนช่วยกันวาดอย่างอิสระเต็มที่ ที่จะเขียนหรือวาดรูปที่เพื่อนๆในชั้นเรียนชอบ และพวกเขามีโอกาสรู้ได้ว่าเพื่อนๆชอบ หรือไม่ชอบอะไรบ้าง

4. จัดแผนผังที่นั่งในห้องเรียนให้ยืดหยุ่นได้ ไม่จำเป็นต้องตายตัว อาจจัดย้ายโต๊ะ เก้าอี้ ตามงานโปรเจ็คท์  ตามการเรียนรู้ที่อาจเป็นรายบุคคลเดี่ยว หรือเป็นกลุ่มแม้ดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ก็มีผลต่อกระบวนการคิดของเด็ก รวมถึงการตกแต่งห้องที่เปลี่ยนแปลงไปตาม Theme การเรียนรู้ เพื่อสร้างสีสัน เพื่อสื่อสารว่าในช่วงการเรียนรู้นั้นๆ ต้องการอะไร เช่น ต้องการการรวมความคิดของคนทั้งหมด ต้องการการโฟกัสที่ข้อมูลที่นำเข้าจากครู ต้องการให้เด็กให้ความสำคัญกับการกระจายคิดตามกลุ่มย่อย เพื่อสร้างบรรยากาศน่าสนใจของการเรียนที่สร้างสรรค์

5. เติมข้อมูลนำเข้าหลายๆ แบบ ไม่ใช่ครูเป็นผู้ใข้อมูลอย่างเดียว เช่น อาจเปิดคลิปของนักคิดระดับโลก  หรือสารคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องเรียน หรือภาพยนตร์ป๊อปที่ตรงประเด็น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ดูเสร็จแล้วนำประเด็นที่เด็กแต่ละคนสนใจ มาถกอภิปรายกัน

6. ใส่ใจกับบรรยากาศที่เปิดกว้าง การไม่ใช้อำนาจจะสร้างพื้นที่ปลอดภัยต่อการเกิดความคิดสร้างสรรค์  ต้องทำให้นักเรียนรู้สึกว่า พวกเขาเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์การเรียนรู้กับครูและเพื่อนๆ ไม่ใช่เป็นเพียงผู้อยู่ใต้อำนาจการสอนของครู ที่นั่งตรงไหนๆ ก็เป็นที่นั่งเสมอภาค ไม่มีตรงไหนที่ได้รับความสนใจหรือมีอภิสิทธิ์มากกว่าที่นั่งอื่นๆ

7. ให้คุณค่ากับความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมและให้รางวัล

     ตัวอย่าง: นักเรียนชั้นประถมปีที่ 3 เรียนรู้รูปหลายเหลี่ยม และเพื่อประเมินว่าพวกเขาเข้าใจหรือไม่ ครูพานักเรียนออกไปนอกห้อง แจกชอล์คให้ทุกคน และที่บริเวณทางเท้า ให้นักเรียนแต่ละคนวาดรูปทรงเรขาคณิต หลายๆรูปบนทางเท้านั้น  เมื่อนักเรียนทำเสร็จแล้ว ครูบอกให้นักเรียนเปลี่ยนรูปทรงเรขาคณิตเหล่านั้น เป็นสิ่งที่พวกเขาชอบ นักเรียนบางคนวาดรูปลูกแมว หุ่นยนต์ และมังกร โดยใช้รูปทรงเรขาคณิตหลายเหลี่ยมอย่างตั้งใจ จากนั้นให้โอกาสอธิบายให้เพื่อนๆในชั้นเรียนฟังว่าทำไมพวกเขาถึงชอบและวาดรูปนั้น

8. เติมสีสันในห้องบ้าง ให้เด็กๆ จัดหาโปสเตอร์ที่ชอบมาตกแต่งห้อง อาจจะตาม Theme ของเนื้อหาที่จะเรียน หรือตามฤดูกาล หรือตามกระแสสถานการณ์ที่เด็กสนใจ เพื่อเปิดให้นักเรียนเข้าใจว่า พื้นที่ห้องเป็นของพวกเขา และสมาชิกทุกคนยอมรับการนำเสนอของกลุ่มหรือบุคคลนั้น  สีสันเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างอารมณ์ที่มีพลังในการเรียนรู้ไม่น้อย หรือแม้กระทั่งในสมุดงาน การบ้าน ของนักเรียนก็ควรให้แต่งแต้มสีสันตามใจชอบ

9. อารมณ์ขันเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์ชั้นเยี่ยม ในห้องคุณครูควรส่งเสริมการใช้อารมณ์ขันของเด็กๆ  เรื่องตลก ภาพตลก การ์ตูนขำขัน ที่เกี่ยวข้อง ล้วนเป็นเรื่องที่ควรส่งเสริมให้นักเรียนหามาเติมเต็มในชั้นเรียน  คุณครูต้องทำให้นักเรียนเห็นว่า การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกได้ในหลากหลายมิติ  ไม่ใช่มีแต่ผิดกับถูกเท่านั้น

10. ในโลกเทคโนโลยี ซึ่งเด็กๆ มีเครื่องมือใหม่ๆ ให้ใช้ และพวกเขาในฐานะ Digital Native ก็มักจะใช้มันได้คล่องแคล่ว คุณครูควรกระตุ้นและเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ใช้เครื่องมือใหม่ๆ เช่น บันทึกผลงานของตัวเองเป็นคลิป ภาพได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบฝึกหัดเพียงอย่างเดียว

11. สอนทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับความคิดสร้างสรรค์แก่นักเรียน

     ตัวอย่าง: ชั้นประถมปีที่ 2 เรียนรู้เรื่องการแช่แข็ง ครูถามคำถามหนึ่งเริ่มต้นว่า “มีแต่น้ำเท่านั้นที่แข็งตัวใช่หรือไม่” จากนั้นนักเรียนจะออกแบบการทดลองเพื่อหาว่า มีอะไรอีกบ้างที่สามารถแข็งตัวได้ ข้อจำกัดคือพวกเขาใช้ได้เฉพาะสิ่งที่พวกเขามีในห้องเรียนในขณะนั้น

     นักเรียนคิดรายการสิ่งของต่างๆ เพื่อจะทดลองดูว่าแข็งตัวหรือไม่: น้ำ น้ำผลไม้ น้ำส้มสายชู กาว น้ำยาเช็ดกระจก ยาสีฟัน และกระดาษ วันรุ่งขึ้น พวกเขาสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่ค้นพบ สาเหตุที่ทำให้กระดาษแข็ง และน้ำส้มสายชูไม่แข็งตัวการอภิปรายของนักเรียนนี้ จะส่งเสริมทักษะต่างๆ เช่น การสนับสนุนความคิดของกันและกัน การประนีประนอม การใช้เหตุผล รวมถึงการฟังอย่างตั้งใจ

12. ขจัดข้อจำกัดในการสร้างสรรค์ของนักเรียน และให้พื้นที่แก่นักเรียน หรือช่วยสร้างโอกาสให้เขาสามารถมีความคิดสร้างสรรค์ได้

     ตัวอย่าง: ชั้นประถมปีที่ 6 ผลิตละครชุดฮัลโลวีน นักเรียนต้องเขียนบทละคร โดยมีตัวละครต่างๆแล้วนำเสนอบทละคร ตัวอย่างเช่น พวกเขาต้องคิดค้นว่าน้ำอัดลมขนาดยักษ์ และซูเปอร์ฮีโร่ วันเดอร์ วูแมนจะคุยโต้ตอบกันได้อย่างไร

จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์เป็นคุณลักษณะที่ขับเคลื่อนสังคมในอนาคต ทั้งสองอย่างนี้ใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียน และควรมีอยู่ในทุกส่วนของการเรียนรู้ ในการวางแผน และออกแบบการเรียนรู้สำหรับนักเรียน คุณครูสามารถสร้างห้องเรียนที่เป็นแหล่งเพาะความคิดสร้างสรรค์ได้ไม่ยากเลย


อ้างอิง

  • BEN JOHNSON, 4 Ways to Develop Creativity in Students, HTTPS://WWW.EDUTOPIA.ORG/ARTICLE/4-WAYS-DEVELOP-CREATIVITY-STUDENTS), 2019
  • CREATIVITY AND PLAY : FOSTERING, CREATIVITY, HTTPS://WWW.PBS.ORG/WHOLECHILD/PROVIDERS/PLAY.HTML
  • 19 INNOVATIVE CLASSROOM IDEAS TO PROMOTE CREATIVITY
    https://www.canva.com/learn/19-ideas-to-promote-more-creativity-in-your-classroom/

Related Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

Stay Connected

74,430แฟนคลับชอบ
- โครงการ “สื่อเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาเด็กปฐมวัย ในวิถีชีวิตใหม่” -
- EF Development Tools -

Latest Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

นายสวัสดิ์ เมฆสุนทร  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ จ.นครราชสีมา 

ผอ.สวัสดิ์ได้รับการแนะนำจากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ให้รู้จัก EF รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง EF ในการประชุมเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง(TSQP)อยู่เสมอ และเข้ารับการอบรมกับสถาบัน RLG เพิ่มเติม  แล้วเห็นว่า EF เป็นความรู้พื้นฐานหรือความรู้ปฐมบทที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ว่าสถานะใดควรต้องรู้ ไม่ใช่เฉพาะผู้ปกครองชนชั้นกลางขึ้นไปที่มีความรู้ หรือเป็นความรู้ในหมู่ครูอาจารย์หรือแพทย์เท่านั้น  ครอบครัวที่ด้อยโอกาสก็ควรต้องรู้ สรุปคือสังคมไทยควรต้องเรียนรู้เรื่อง EF เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันจึงสนับสนุนให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนได้รับการอบรม EF จากสถาบัน RLG และดำเนินการปรับสนามเด็กเล่นเพื่อให้เด็กได้เล่นอิสระอย่างปลอดภัยและมีความสุข...

นายจรูญ น้อยสำราญ  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบอน จ.ตราด

โรงเรียนบ้านหนองบอนเป็นโรงเรียนหนึ่งในเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQD) กสศ.ซึ่งทำให้ผอ.จรูญได้เริ่มรู้จัก EF แล้วทำให้อยากรู้ว่า EF คืออะไร เมื่อพบว่าสถาบัน RLG มีการอบรมเรื่องนี้จึงสมัครเข้ารับอบรมพร้อมครูอนุบาล 2 คน  แล้วได้เห็นว่า EF เป็นคำตอบเรื่องการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และการพัฒนาเด็กให้เต็มศักยภาพ จึงนำความรู้ EF มาถ่ายทอดให้ครูในโรงเรียน โดยใช้สื่อจากสถาบันRLG ให้ครูเรียนรู้ และมอบหมายให้รองผอ.ติดตามการดำเนินการขับเคลื่อนความรู้ EF สู่การปฏิบัติในชั้นเรียนอนุบาล...