สอบถามการใช้งานระบบ?

(02)913 - 7555 กด 4104

ฝ่ายบริการสมาชิกเว็บไซต์

ความรู้ชุด : Strength จุดแข็ง #2 ฝึกสมองให้แข็งแรงได้เหมือนฝึกกล้ามเนื้อ

ฝึกสมองให้แข็งแรงได้เหมือนฝึกกล้ามเนื้อ

สมองสามารถฝึกฝนให้แข็งแกร่งได้ เช่นเดียวกับการออกกำลังกายเป็นการฝึกฝนให้กล้ามเนื้อแข็งแรง การฝึกฝนเล็กน้อยอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ สามารถทำให้วงจรประสาทในเรื่องนั้นๆ ภายในสมองของเราแข็งแรงขึ้นมาได้

ในปี พ.ศ. 2549 M. Oaten และ K. Cheng ได้ทำการทดลองโดยให้ผู้เข้าร่วมการทดลอง รับคำสั่งให้นั่งหน้าคอมพิวเตอร์และจดจ่อไปที่สี่เหลี่ยมจตุรัสสีซึ่งเคลื่อนที่ ย้ายไปมาผ่านหน้าจอ โดยในระหว่างที่ผู้เข้าร่วมจ้องจตุรัสสีที่กำหนด มีภาพสเก็ตตลกๆ แทรกเข้ามา เพื่อทดสอบระดับความสามารถในการควบคุมตนเองของผู้เข้าร่วมแต่ละคน ว่ายังคงจดจ่อกับรูปจตุรัสที่กำหนดมาได้แค่ไหน ผลการทดลองพบว่า ผู้เข้าร่วมสามารถจดจ่อภาพจตุรัสที่กำหนดไว้ได้ดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อยในแต่ละครั้งที่ทำการทดสอบ การทดลองนี้ได้แสดงให้เห็นว่า ยิ่งได้ฝึกฝนทีละเล็กทีละน้อยมากเท่าใด สมองของเราในส่วนที่ได้รับการฝึกฝนนั้นจะค่อยๆดีขึ้น แข็งแกร่งขึ้นตามธรรมชาติเช่นเดียวกับการที่เราออกกำลังกายแล้วทำให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้นทีละน้อยเช่นกัน

กรณีสุดโต่งกรณีหนึ่งในเรื่องการฝึกฝนเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสมอง จนสมองทำงานกลับออกมาเป็นสมรรถนะที่เราสามารถมองเห็นได้ คือ กรณีของ แมตต์ สตัทซ์แมน นักกีฬายิงธนูพาราลิมปิกที่ไม่มีแขนทั้งสองข้าง สามารถยิงธนูโดยใช้คอและเท้าเหนี่ยวคันธนูอย่างแม่นยำ ผลการสแกนสมองของแมตต์ พบว่าสมองสวนควบคุมเท้าของแมตต์มีขนาดประมาณลูกปิงปอง เมื่อเทียบกับสมองส่วนนี้ของคนทั่วไปที่มีขนาดประมาณเท่าเม็ดถั่ว เรื่องขนาดสมองของแมตต์ในส่วนนี้คล้ายคลึงกันกับเรื่องการสแกนสมองของคนขับแท็กซี่ในกรุงลอนดอนเปรียบเทียบกับสมองของคนขับรถบัส พบว่าสมองส่วนฮิปโปแคมปัสของคนขับแท็กซี่เหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ จากการที่คนขับแท็กซี่ในลอนดอนต้องจดจำเส้นทางซอกซอยมากมายในกรุงลอนดอน แสดงให้เห็นว่า สมองมีความยืดหยุ่นเช่นเดียวกับกล้ามเนื้อ เมื่อใช้งานมาก จะแข็งแรง ความสามารถในการยืดหยุ่นของสมองเรียกว่า Neuroplasticity เป็นการค้นพบใหม่จากเดิมที่เราเคยเข้าใจว่า สมองมีสภาพเป็นเช่นไรจะเป็นเช่นนั้นไปจนตาย

สมองมีหลายส่วน แต่ละส่วนเชื่อมโยงกันและทำหน้าที่แตกต่างกันไป ทักษะสมองส่วนหน้าซึ่งทำงานในบริเวณสมองที่อยู่หลังหน้าผากของเรามีทักษะเชิงบริหารจัดการ (Executive Function: EF) เป็นทักษะชั้นสูงของสมองในการควบคุมกำกับตนเอง ไปสู่เป้าหมาย ด้วยการประมวลเอาประสบการณ์ที่ผ่านมา ปรับใช้ในสถานการณ์ใหม่ที่ไม่คุ้นเคย มนุษย์มีสัดส่วนของสมองส่วนหน้า (EF) ในเนื้อสมองใหญ่กว่าสัตว์ประเภทต่างๆ จึงทำให้มีความฉลาด เฉลียว คิดเชิงนามธรรม คิดไกล คิดกว้างได้มากกว่า มีคุณธรรมอย่างที่สัตว์อื่นไม่สามารถทำได้เท่า การมี “สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย” ตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานของชีวิต ให้สมองส่วนหน้าได้ทำงานอย่างเต็มที่ สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยนอกจากหมายถึงสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ปลอดภัย เช่น ปราศจากสงคราม ไม่มีสิ่งที่จะทำอันตรายแก่ร่ายกาย ยังหมายถึงสิ่งแวดล้อมที่ให้ความปลอดภัยทางใจ ความเครียดที่เด็กเผชิญ ไม่ว่าความรุนแรงในครอบครัว การขาดความรัก กลัวถูกทำโทษจากครู ล้วนทำให้จิตใจเด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย ส่งผลให้สมองหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อสมองส่วนความจำและการตัดสินใจแย่ลง การเอ็กซเรย์สมองเด็กที่เผชิญความเครียดเรื้อรังพบว่าแขนงของเซลล์ประสาทหดสั้น เหมือนรากไม้ที่แห้งตาย

อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเพียงอย่างเดียวยังไม่เพียงพอสำหรับความแข็งแรงของสมอง ทักษะสมองส่วนหน้า (EF) จะแข็งแรงยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ มีสถานการณ์หรือเรื่องราวให้ได้เรียนรู้ ขบคิด แก้ปัญหา มีกิจกรรมได้ลงมือทำ และได้ทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ทุกครั้งที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่และได้ทำงาน วงจรสมองจะเชื่อมต่อกันและแข็งแรงมากขึ้น การใช้ชีวิตในบ้าน นอกจากกิจวัตรประจำวันที่มีตารางแน่นอน พ่อแม่ ผู้ปกครองควรให้โอกาสเด็กได้เล่นอิสระ ได้จินตนาการ ให้สมองของเด็กได้มีโอกาสออกไปเจอสิ่งใหม่ เพื่อเรียนรู้ ฝึกฝนให้แข็งแรง

นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำยังทำให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้น การออกกำลังกายคือการออกกำลังสมอง เด็กควรได้วิ่งเล่น ได้ขี่จักรยาน ได้เล่นกีฬา ให้เหงื่อออก และได้นอนหลับแต่หัวค่ำอย่างเพียงพอ ให้สมองมีเวลาจัดข้อมูล และประสบการณ์ต่างๆให้เป็นระเบียบ นำความจำที่เกิดขึ้นในชีวิตเก็บเข้าเป็นความจำระยะยาว

สมองก็เช่นเดียวกันกับร่างกาย หากเหนื่อยอ่อน เหนื่อยล้าประสิทธิภาพก็จะลดลง หากสมองของเราได้รับการกระตุ้นมากเกินไป การเกิดความเครียดทั้งโดยฉับพลันหรือได้รับความเครียดเรื้อรังประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลง ดังนั้นพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู ต้องมีความเข้าใจเด็กๆ ที่แสดงอาการควบคุมตนเองไม่ได้ ดื้อ งอแง เพราะเหนื่อยจากการเรียนหรือเล่นมาทั้งวัน หิว หรือนอนไม่พอ เวลาที่เห็นเด็กแสดงอาการดังที่กล่าวมานั้น เด็กไม่รู้ตัวและช่วยตัวเองไม่ได้ จึงไม่ใช่เวลาที่จะโกรธเด็กๆ แต่กลับต้องเป็นเวลาที่จะต้องเอาใจใส่และตอบสนองความต้องการพื้นฐานของเด็ก คือ หากเหนื่อยเด็กต้องได้รับการพักผ่อน หากหิวต้องหาอะไรให้กินก่อน หากง่วงควรได้นอน ในสภาพที่สะอาด สบายตัว แทนที่จะดุหรือตำหนิเด็ก เมื่อร่างกายได้รับการตอบสนองความต้องการพื้นฐาน สมองส่วนกลางซึ่งเป็นส่วนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับอารมณ์เกิดความรู้สึก ปลอดภัย สบายใจ หรือพึงพอใจ สมองส่วนหน้าจึงจะทำงานได้ดี

          เด็กที่วงจรประสาทในสมองส่วนหน้าทำงานได้เต็มที่ จากการที่สมองส่วนกลางได้รับการเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่ดี วงจรประสาทในสมองของเด็กเหล่านี้จะกลายเป็นวงจรประสาทที่แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ทีละเล็กละน้อย เหมือนกล้ามเนื้อที่ค่อยๆแข็งแรงขึ้นจากการออกกำลังกาย ดังนั้น เด็กแต่ละคนที่เกิดมา แม้ต่างมีต้นทุนชีวิตตนจากยีนที่ไม่เหมือนกัน มีพรสวรรค์แตกต่างกัน หากได้รับการฝึกฝนส่วนที่เป็น “จุดแข็ง” ไปได้สุดทางในสิ่งที่ตนมี ทำได้ดีสุดในเรื่องที่ตนเก่งกว่าคนอื่น และมีความสุขในสิ่งที่ทำ Self ของเด็กจะแข็งแรง เฉกเช่นที่สมองแข็งแรงขึ้นจากการเรียนรู้ ฝึกฝน และได้ทำอย่างต่อเนื่อง 

          เด็กคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นด้วยความรู้สึก “ดี” ต่อตนเองสักเพียงใด ที่ได้เห็นคุณค่าของตนเอง ผ่านสิ่งที่ดีที่สุดที่ตนเองมี และได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดนี้ต่อผู้คนบนโลกใบนี้

อ้างอิง

Lea Waters, How to Be a Strength-Based Parent,   https://greatergood.berkeley.edu/article/item/how_to_be_a_strength_based_parent, 2 October  2018 M.Oaten and K. Cheng, Longitudinal gains in self-regulation from regular physical exercise, https://se-realiser.com/wp-content/uploads/2020/03/Oaten-Cheng-2006-Longitudinal-gains-in-self-regulation-from-regular-physical-exercise.pdf, 2006


ปรารถนา หาญเมธี แปลและเรียบเรียง

Related Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

Stay Connected

74,430แฟนคลับชอบ
- โครงการ “สื่อเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาเด็กปฐมวัย ในวิถีชีวิตใหม่” -
- EF Development Tools -

Latest Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

นายสวัสดิ์ เมฆสุนทร  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ จ.นครราชสีมา 

ผอ.สวัสดิ์ได้รับการแนะนำจากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ให้รู้จัก EF รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง EF ในการประชุมเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง(TSQP)อยู่เสมอ และเข้ารับการอบรมกับสถาบัน RLG เพิ่มเติม  แล้วเห็นว่า EF เป็นความรู้พื้นฐานหรือความรู้ปฐมบทที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ว่าสถานะใดควรต้องรู้ ไม่ใช่เฉพาะผู้ปกครองชนชั้นกลางขึ้นไปที่มีความรู้ หรือเป็นความรู้ในหมู่ครูอาจารย์หรือแพทย์เท่านั้น  ครอบครัวที่ด้อยโอกาสก็ควรต้องรู้ สรุปคือสังคมไทยควรต้องเรียนรู้เรื่อง EF เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันจึงสนับสนุนให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนได้รับการอบรม EF จากสถาบัน RLG และดำเนินการปรับสนามเด็กเล่นเพื่อให้เด็กได้เล่นอิสระอย่างปลอดภัยและมีความสุข...

นายจรูญ น้อยสำราญ  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบอน จ.ตราด

โรงเรียนบ้านหนองบอนเป็นโรงเรียนหนึ่งในเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQD) กสศ.ซึ่งทำให้ผอ.จรูญได้เริ่มรู้จัก EF แล้วทำให้อยากรู้ว่า EF คืออะไร เมื่อพบว่าสถาบัน RLG มีการอบรมเรื่องนี้จึงสมัครเข้ารับอบรมพร้อมครูอนุบาล 2 คน  แล้วได้เห็นว่า EF เป็นคำตอบเรื่องการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และการพัฒนาเด็กให้เต็มศักยภาพ จึงนำความรู้ EF มาถ่ายทอดให้ครูในโรงเรียน โดยใช้สื่อจากสถาบันRLG ให้ครูเรียนรู้ และมอบหมายให้รองผอ.ติดตามการดำเนินการขับเคลื่อนความรู้ EF สู่การปฏิบัติในชั้นเรียนอนุบาล...