Page 124 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 124

1 ใน 10 คนมีควำมคิดอยำกฆ่ำตัวตำยโดยเป็นเด็กระดับปวช. มำกถึงร้อยละ 15.7                          โดดเดี่ยวที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่ำสมองส่วนกลำงหรือส่วนลิมบิก ซึ่งเป็นส่วนของ
                                   มำกกว่ำนักเรียนระดับมัธยมปลำยกว่ำเท่ำตัว                                                        อำรมณ์ควำมรู้สึก ไม่ได้รับกำรเติมเต็ม ชีวิตไม่มั่นคง ไปจนถึงไม่ปลอดภัย ซึ่งเมื่อเป็น

                                                                                                                                   เช่นนี้ ทักษะสมอง EF จะไม่สำมำรถท�ำงำนได้เต็มที่ เพรำะในสมองของสิ่งมีชีวิตนั้น
                                                                                                                                   สิ่งที่ต้องบริหำรอันดับแรกคือเอำชีวิตให้รอดปลอดภัย และต้องท�ำหน้ำที่พื้นฐำนตรงนี้
                                           ในกทม.มีภำวะ      20.63%
                                           ซึมเศร้ำสูงสุด                                                                          ให้ส�ำเร็จก่อน จึงจะสำมำรถใช้ทักษะสมอง EF คิดค�ำนึงถึงเหตุผลซึ่งเป็นเรื่องซับซ้อน
                                                                                                                                   ผูกโยงกับผู้อื่นกับมำตรฐำนทำงสังคมและประสบกำรณ์ที่ได้รับกำรฝึกฝนมำ
                                           ภำคตะวันออก       17.28%
                                           เฉียงเหนือ                                       สาเหตุจาก

                        ภาวะซึมเศร้า       ภำคใต้                                       ครอบครัวแตกแยก                                 ส่วนควำมเหงำแท้จริงคือควำมรู้สึกโดดเดี่ยว เป็นควำมรู้สึกที่อ้ำงว้ำงเหมือนอยู่
               นักเรียน                                      15.60%                       ปัญหาการเงิน                             คนเดียวบนโลกใบนี้  ในทำงจิตวิทยำพุทธศำสนำ (Buddhism Psychology) มีผู้กล่ำว
                                                                                           และการเรียน                             ว่ำควำมเหงำคือควำมอยำกแน่ใจว่ำ ‘เรำมีตัวตน’ อยู่ จอห์น คำซีออปโพ เผยข้อมูล

                                           ภำคเหนือ          15.15%                                                                งำนวิจัยว่ำ ควำมเหงำสำมำรถท�ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงในระดับยีนและสำรเคมีใน


                                           ภำคกลำง           14.14%                                                                สมองให้หลั่งฮอร์โมนควำมเครียดออกมำได้ง่ำยขึ้น

                                                                               อ้ำงอิง : กรมสุขภำพจิต 2547


                                       ควำมคิดอยำกฆ่ำตัวตำยมีสำเหตุจำก 3 ปัจจัยหลักคือโรคซึมเศร้ำ กรรมพันธุ์และ                    บทบาทครู EF คือ Coach และ Facilitator
                                   ควำมเครียดจำกสภำพแวดล้อม กำรโดนทำรุณกรรมในวัยเด็ก ไม่ว่ำกำรทุบตีโดยไม่มี                            กำรพัฒนำทักษะสมอง EF ของวัยรุ่นระดับมัธยมที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่โรงเรียน

                                   เหตุผล กำรท�ำร้ำยร่ำงกำยอย่ำงรุนแรง ซึ่งส่งผลให้ชอบควำมท้ำทำย ชอบกิจกรรม                        ต้องกำรทั้งสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน โดยเฉพำะครูเป็นผู้สร้ำง “โอกำส” สร้ำงบรรยำกำศ
                                   เสี่ยงต่อกำรเจ็บตัว อำรมณ์รุนแรง ควบคุมอำรมณ์ยำก และกำรใช้สำรเสพติด                             ให้เด็กได้เรียนรู้ทั้งโลกภำยนอกและกำรเข้ำใจตนเอง บทบำทของครูที่ส่งเสริม

                                   โดยเฉพำะยำเคและสำรระเหย
                                                                                                                                   กำรพัฒนำของทักษะสมอง EF ให้เกิดกระบวนกำรท�ำงำนขั้นสูงเพื่อไปก�ำกับควำมคิด
                                                                                                                                   อำรมณ์และกำรกระท�ำ จึงต้องเปลี่ยนจำกกำรเป็นผู้ให้ควำมรู้ มำเป็นผู้อ�ำนวย
                                       อำกำรซึมเศร้ำเกิดจำกควำมผิดปกติของสำรเคมีในสมองที่ชื่อเซโรโทนิน                             ควำมสะดวกหรือ facilitator ได้แลกเปลี่ยนเพื่อเข้ำใจแก่น (concept) ของเรื่อง
                                   (Serotonin) มีปริมำณลดลงท�ำให้ผู้ป่วยมีควำมรู้สึกท้อแท้ หงอยเหงำ เบื่อหน่ำย                     ที่เรียน โดยสนับสนุนให้เด็กได้ลงมือท�ำ เกิดควำมมั่นใจและลงมือท�ำต่อ ให้โอกำสเด็ก

                                   ไม่สนุกสนำนกับชีวิต นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลำงดึก ฝันร้ำยบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบ                    ได้ลองผิดลองถูก ท�ำผิดพลำดแล้วเรียนรู้ได้ เพื่อให้เกิดทักษะควำมสำมำรถอย่ำง
                                   ให้ควำมสำมำรถในกำรท�ำงำนลดลง และท้ำยที่สุดอำจน�ำไปสู่กำรฆ่ำตัวตำย
                                                                                                                                   หลำกหลำยในกำรลงมือแก้ไขควำมผิดพลำดได้ด้วยตนเอง และบทบำทของครู

                                                                                                                                   อีกประกำรคือกำรเป็นโค้ช (coach) ลงมำดูเด็กเป็นรำยบุคคลเพื่อช่วยให้เด็ก
                                       ควำมรู้สึกเศร้ำอย่ำงยำวนำนเป็นอำกำรที่สะท้อนว่ำคนคนนั้นไม่สำมำรถควบคุม                      พัฒนำกำรเรียนรู้

                                   ชีวิตตนเองได้ ไม่สำมำรถหำทำงออกของชีวิตได้ เมื่อเจอสถำนกำรณ์ที่เลวร้ำย
                                   ในชีวิต (ซึ่งทุกคนมีโอกำสเจอไม่มำกก็น้อย) ควำมเศร้ำรวมทั้งควำมเหงำและควำมรู้สึก






            124                                                                                                                                                                                                                  125
   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129