Page 122 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 122
ปัจจัยที่ส่งผลลบต่อสมอง ความเครียด ความกลัว
• วินัยเชิงลบ ควำมเครียดมีอิทธิพลอย่ำงมีนัยส�ำคัญต่อกำรสร้ำงควำมจ�ำและกำรเรียนรู้
• ควำมเครียด ควำมกลัว เพื่อตอบสนองสถำนกำรณ์ที่ตึงเครียด สมองจะปล่อยฮอร์โมนและสำรสื่อประสำท
• ควำมเศร้ำ ควำมเหงำ โดดเดี่ยว (เช่น glucocorticoids และ catecholamines) ซึ่งมีผลต่อกำรเข้ำรหัสควำมจ�ำ
• กำรใช้ควำมรุนแรง ในฮิปโปแคมปัส งำนวิจัยทำงพฤติกรรมของหนูพบว่ำ กำรมีควำมเครียดเรื้อรังจะ
• กำรอยู่กับเทคโนโลยีนำนและมำกเกินควร ท�ำให้เกิดกำรสร้ำงฮอร์โมนอะดรีนำลีน ซึ่งมีผลต่อฮิปโปแคมปัสในสมอง มีงำนวิจัย
• กำรนอนไม่เพียงพอ ชิ้นหนึ่งที่ท�ำในปี ค.ศ. 2010 ชี้ว่ำกำรเรียนรู้ภำยใต้ควำมเครียดท�ำให้คนจ�ำสิ่งที่เรียน
นั้นได้น้อยลง นอกจำกนั้นยังมีงำนวิจัยของมหำวิทยำลัยฮำวำร์ดพบว่ำ ควำมเครียด
การสร้างวินัยเชิงลบ ต่อเนื่องยำวนำนสำมำรถเปลี่ยนโครงข่ำยเซลล์ประสำทซึ่งถือว่ำเป็นสถำปัตยกรรม
คือกำรควบคุมพฤติกรรมของบุคคล โดยกำรใช้วิธีกำรลงโทษหรือกำรสร้ำง ของสมอง (จำกสภำวะปกติที่เซลล์ประสำทมีกำรเชื่อมต่อกันอย่ำงมำกมำยตลอดเวลำ)
ควำมเจ็บปวดทำงกำยและทำงใจให้กับผู้ที่ประพฤติตัวไม่เหมำะสมหรือไม่ประพฤติตน พิษของควำมเครียดท�ำลำยกำรเชื่อมต่อของเซลล์ประสำทในสมองส่วนหน้ำและบริเวณ
ตำมกฎระเบียบ ซึ่งมีผลต่อกำรกระตุ้นควำมรู้สึกและอำรมณ์ด้ำนลบของผู้ที่ถูกควบคุม ฮิปโปแคมปัส ซึ่งท�ำงำนเกี่ยวกับควำมจ�ำให้ลดน้อยถอยลงอย่ำงเห็นได้ชัด
ควำมประพฤติ โดยทั่วไปมี 3 รูปแบบ
ฮอร์โมน กำรเปลี่ยนแปลงของร่ำงกำย กำรถูกคำดหวังสูง กำรเรียนที่ไม่สอดคล้อง
กับพัฒนำกำรและเชื่อมโยงกับชีวิต สภำพกำรแข่งขัน ปัญหำครอบครัวที่เปรำะบำง
(35% ของครอบครัวไทยมีปัญหำหย่ำร้ำง) สภำพสังคมที่เร่งรัด ล้วนท�ำให้วัยรุ่นไทย
จ�ำนวนมำกมีควำมเครียด “เครียด” อย่ำงยำวนำนท�ำให้เกิดภำวะซึมเศร้ำได้ เมื่อเป็น
เช่นนี้แล้ว เรำน่ำจะจินตนำกำรได้ว่ำ “โครงสร้ำง” สมองของเด็กไทยเป็นอย่ำงไร
การลงโทษด้วยค�าพูด การลงโทษทางกาย ความเศร้า เหงาและโดดเดี่ยว
การท�าร้ายจิตใจ
จำกกำรส�ำรวจสุขภำพจิตและกำรใช้สำรเสพติดของวัยรุ่นในสถำนศึกษำปี 2547
ของกรมสุขภำพจิต กระทรวงสำธำรณสุข พบนักเรียนระดับมัธยมปลำยและปวช.
ซึ่งกำรกระท�ำเหล่ำนี้แม้หลำยครั้งท�ำขึ้นมำด้วยคิดว่ำเป็นเจตนำดีและสำมำรถ มีภำวะซึมเศร้ำถึงร้อยละ 16.41 หรือรำว 1 ใน 6 คนจะมีภำวะซึมเศร้ำ โดยนักเรียน
ยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ได้ชั่วครำว แต่ไม่เกิดกำรส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีของเด็ก ในกทม.มีภำวะซึมเศร้ำสูงสุดถึงร้อยละ 20.63 ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ 17.28
กลับบั่นทอนควำมสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งยับยั้งพัฒนำกำรกำรมีวินัยด้วยตนเอง ซึ่งเป็น ภำคใต้ร้อยละ 15.60 ภำคเหนือร้อยละ 15.15 และภำคกลำงร้อยละ 14.14
เป้ำหมำยสูงสุดของกำรสร้ำงวินัย สำเหตุมำจำกครอบครัวแตกแยก ปัญหำกำรเงินและกำรเรียน และยังพบว่ำเด็กนักเรียน
122 123