Page 120 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 120

ดังนั้นกำรเป็นผู้ใหญ่ที่ดีจะเป็น “แบบอย่ำง” ให้ working memory ของวัยรุ่น                   รับมือกับชีวิตแบบผู้ใหญ่ในอนำคตต่อไปได้ ขณะที่ระบบประสำทในสมองส่วนกลำง
                                   จดจ�ำไปใช้ได้ทันท่วงทีในสถำนกำรณ์ต่ำงๆ ที่แปรเปลี่ยนไป ทุกกำรกระท�ำของพ่อแม่                    และสมองส่วนหน้ำยังท�ำงำนร่วมกันได้ไม่สมบูรณ์ ท�ำให้ตอบสนองต่อระบบกำรตอบ

                                   ครู ผู้ใหญ่ในสังคม อยู่ในสำยตำของเด็กผ่ำนกำรท�ำงำนของเซลล์กระจกเงำแม้ว่ำ                        สนองควำมพึงพอใจ (reward systems) ได้ง่ำย
                                   เขำไม่ได้ตั้งใจดู กำรกระท�ำดีของผู้ใหญ่จะสร้ำงประสบกำรณ์ที่ดีให้กับเด็กและ

                                   ประสบกำรณ์นี้จะฝังลงไปในควำมทรงจ�ำ ให้น�ำไปใช้ในสถำนกำรณ์ใหม่ๆ ที่ต้องใช้                           โดปำมีนซึ่งสมองหลั่งออกมำทุกครั้งที่ได้รับควำมสุขจำกรำงวัลที่ได้ เป็นสำรเคมี
                                   ทักษะสมองส่วนหน้ำในกำรตอบสนอง                                                                   ตัวเดียวกันกับที่มีอยู่ในยำเสพติด วัยรุ่นที่มีบำดแผลชีวิตในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นที่ทักษะ

                                                                                                                                   สมอง EF ไม่แข็งแรงจึงมีโอกำสที่จะตัดสินใจผิด ขำดควำมยับยั้งชั่งใจ ท�ำให้มี
                                       สิ่งที่เรำต้องถกคิดกันอย่ำงจริงจังคือเรำจ�ำเป็นต้องเป็น “แบบอย่ำง” ที่สร้ำง                 ควำมเสี่ยงที่ยำเสพติดจะเข้ำมำในชีวิตช่วงนี้ได้ง่ำย โดยเฉพำะเมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อม

                                   “โอกำส” และ “สิ่งแวดล้อม” ที่ส่งเสริมให้วัยรุ่นได้เรียนรู้และพัฒนำทักษะสมอง EF                  ที่ไม่อ�ำนวย เช่น ไม่ได้รับควำมรักจำกครอบครัวเพียงพอทุกวัน ในห้องเรียนที่เต็มไป
                                   ในเรื่องใดบ้ำง                                                                                  ด้วยกำรแข่งขันท�ำให้วัยรุ่นส่วนใหญ่ต้องพ่ำยแพ้ ไม่เห็นคุณค่ำตนเอง ไม่สำมำรถ

                                                                                                                                   เรียนรู้และสนใจในสิ่งที่ตนเองรัก ไม่มีเป้ำหมำยที่สร้ำงแรงบันดำลใจ ต้องเรียนรู้เรื่อง
                                   กระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริม EF ของวัยรุ่น                                                      ที่ไม่ได้เอำไปใช้ และถูกวัดประเมินเพียงควำมจ�ำด้วยมำตรฐำนที่แข็งตัว ไม่มีโจทย์
                                       เมื่อน�ำควำมรู้เข้ำมำมองสภำพควำมเป็นจริงปัจจุบัน ภำยใต้สิ่งแวดล้อมเชิงระบบ                  ที่ท้ำทำยตำมพัฒนำกำร อยู่ในสังคมที่ยำเสพติดหำได้ง่ำย เป็นต้น

                                   สิ่งที่แวดล้อมชีวิตวัยรุ่นในแต่ละวันมี 4 ส่วนใหญ่ๆ คือ บ้ำน โรงเรียน ชุมชนและสังคม และ

                                   สิ่งแวดล้อมสุดท้ำยที่วัยรุ่นไทยใช้เวลำวันละไม่น้อยกว่ำ 3 ชั่วโมงในกำรติดต่อปฏิสัมพันธ์              ในวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่เด็กก�ำลังจะก้ำวต่อไปเป็นผู้ใหญ่ ต้องกำรสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้น
                                   กับโลกคือมือถือ โลกเสมือนจริงที่นับวันมีอิทธิพลต่อชีวิตมำกขึ้นทุกวัน สิ่งแวดล้อม                ให้เกิดกำรเรียนรู้และสร้ำงสรรค์ ทักษะกำรคิดวิเครำะห์ กำรสื่อสำร กำรท�ำงำน กำร
                                   ทั้งหมดที่กล่ำวมำนี้ส่งผลทั้งในทำงส่งเสริมและบั่นทอนทักษะสมอง EF โดยตรง                         มีส่วนร่วม ควำมสำมำรถในกำรวำงแผน ลงมือท�ำ ยอมรับผลลัพธ์กำรกระท�ำ และ

                                                                                                                                   ทักษะชีวิตอื่นๆ เพื่อไปเป็นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบชีวิตตัวเองและครอบครัวของตนเอง

                                       จะท�ำอย่ำงไรให้สิ่งแวดล้อมเหล่ำนี้ส่งเสริมทักษะสมอง EF ของวัยรุ่น                           ในอนำคตได้โดยสมบูรณ์ เด็กวัยมัธยมศึกษำจึงเป็นวัยที่ทักษะสมอง EF ควร
                                       สิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมทักษะสมอง EF วัยรุ่น คือสิ่งแวดล้อมที่เปิดโอกำสให้เด็ก                ได้รับกำรฝึกฝนต่อเนื่องไปในทุกด้ำน เพื่อพัฒนำควำมสำมำรถในกำรควบคุมอำรมณ์
                                   วัยรุ่นได้ฝึกฝนเรื่องที่...                                                                     ควำมคิดและกำรกระท�ำของตนเพื่อมุ่งสู่เป้ำหมำยไปสู่ควำมส�ำเร็จของชีวิต เนื้อหำ

                                       1. สำมำรถน�ำไปใช้ในชีวิตจริงได้                                                             กำรเรียนกำรสอนในระดับมัธยมที่สำมำรถตอบสนองให้เด็กวัยรุ่นแต่ละคนสำมำรถ

                                       2. เป็นเรื่องที่สนใจทั้งที่สนใจเฉพำะตนและสนใจตำมวัย เช่น กำรเริ่มสนใจ                       หำอัตลักษณ์ของตนพบ จึงต้องเป็นเรื่องที่เด็กจะได้น�ำไปใช้จริงในชีวิตทั้งหมด
                                           เพศตรงข้ำม                                                                              ในประเด็นพื้นฐำน 4 เรื่องคือ เรื่องสุขภำพ เศรษฐศำสตร์ สิ่งแวดล้อม สังคมพลเมือง
                                       3. เป็นเรื่องที่มีควำมท้ำทำย

                                                                                                                                       จึงจะเห็นได้ว่ำแนวทำงกำรสร้ำงเสริม EF ทั้งหมดที่กล่ำวมำนี้ไม่ได้เน้นกำร

                                       กระบวนกำรเรียนรู้ของวัยรุ่นต้องกำรควำมซับซ้อนตำมควำมสนใจของตน เพื่อ                         ออกแบบหลักสูตรเฉพำะหรือกำรใช้อุปกรณ์เฉพำะรำคำแพง แต่เป็นกำรท�ำควำมเข้ำใจ
                                   ค้นหำว่ำตนเกิดมำมี“อัตลักษณ์” ไม่เหมือนใคร มีคุณค่ำและควำมหมำยต่อใคร อย่ำงไร                    และสร้ำงโอกำสให้เกิดองค์ประกอบ 5 ด้ำนภำยในสมองส่วนหน้ำเพื่อพัฒนำทักษะ
                                   วัยรุ่นยังต้องกำรกำรเรียนรู้ที่ท้ำทำยซึ่งเป็นพัฒนำกำรตำมวัย เพื่อที่จะมีควำมสำมำรถ              สมอง EF ที่สำมำรถท�ำได้จริงเมื่อมีควำมเข้ำใจและตั้งใจท�ำกันอย่ำงจริงจัง




            120                                                                                                                                                                                                                  121
   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125