Page 168 - คู่มือ Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย
P. 168

5. เป็นต้นแบบพฤติกรรมที่พึงประสงค์                                                           ปัญหำนั้น แม้ลูกจะรู้สึกกดดันบ้ำง เครียดบ้ำง ก็เหมือนเป็นกำรให้วัคซีนลูกที่จะเติบโต
                                                                                                                                  อย่ำงแข็งแรง และให้ลูกได้พบกับควำมสุขจำกควำมส�ำเร็จที่เกิดจำกสติปัญญำและ
                                       เด็กเรียนรู้ได้ดีจำกกำรเลียนแบบ และแบบอย่ำงที่เด็กเลียนแบบมำกที่สุดคือ                     ควำมเพียรพยำยำมของตนเอง

                                     พ่อแม่ พฤติกรรมของพ่อแม่อยู่ในสำยตำของเด็กตลอดเวลำ ดังนั้น พฤติกรรมใด

                                     ที่ต้องกำรให้เกิดกับลูกต้องเริ่มต้นที่พ่อแม่ก่อน หรืออย่ำงน้อยก็เริ่มไปพร้อมๆ                7. ให้รับผิดชอบงานบ้าน
                                     กับลูก ดังค�ำกล่ำวที่ว่ำ ลูกท�ำให้พ่อแม่มีนิสัยที่ดีขึ้น อยำกให้ลูกตื่นแต่เช้ำ พ่อแม่ก็
                                     ต้องตื่นแต่เช้ำด้วยเช่นกัน อยำกให้ลูกกินผัก แม้พ่อจะไม่ชอบกิน ก็ต้องกินผักไป                   กำรมอบหมำยงำนบ้ำนเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกท�ำ จะท�ำให้ลูกเป็นคนรักกำรท�ำงำน

                                     พร้อมกับลูก ดังนั้น หำกต้องกำรให้ลูกมีกำรพัฒนำทักษะสมอง EF ที่ดี พ่อแม่ต้อง                  มีทักษะในกำรท�ำงำน ขยัน กระตือรือร้น รู้จักวำงแผนและลงมือท�ำ มีควำม

                                     พยำยำมพัฒนำตนให้มีองค์ประกอบของทักษะสมอง EF ทั้ง 9 ด้ำนไปพร้อมๆ กับลูก                       รับผิดชอบและมีน�้ำใจฯลฯ นั่นคือลูกได้พัฒนำทักษะสมอง EF ไปพร้อมกันหลำยๆ
                                     ด้วย เช่น ถ้ำต้องกำรให้ลูกมีทักษะด้ำนควบคุมอำรมณ์ พ่อแม่ก็ต้องเป็นต้นแบบ                     ด้ำน เพรำะงำนบ้ำนเป็นกำรเรียนรู้จำกกำรลงมือท�ำ (Learning by Doing)
                                     ในกำรควบคุมอำรมณ์ด้วยเช่นกัน                                                                   กำรรับผิดชอบงำนบ้ำน ยังมีควำมส�ำคัญอีกด้ำนหนึ่งที่เรำไม่อำจมองข้ำมไป คือ
                                                                                                                                  กำรรับรู้ถึง “ควำมเป็นครอบครัวเดียวกัน” นั่นคือ กำรใช้เวลำด้วยกัน ควำมรับผิดชอบ

                                     6. ให้โอกาสลูกได้เรียนรู้และเผชิญปัญหา                                                       บ้ำนของเรำ กำรท�ำงำนบ้ำนด้วยกัน กุลีกุจอช่วยเหลือกันโดยไม่ต้องเอ่ยปำก กำรสำน
                                                                                                                                  สัมพันธ์ด้วยกำรร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนในครอบครัว กำรท�ำงำนบ้ำนจึงเป็นเครื่องมือ
                                       กำรเรียนรู้ของเด็กนอกจำกจะเรียนรู้จำกกำรเลียนแบบ ดังได้กล่ำวไว้ในข้อ 5                     ในกำรสร้ำงควำมรักควำมห่วงใยในครอบครัว สิ่งเหล่ำนี้จะท�ำให้เด็กมีจิตใจที่
                                     แล้ว กำรเรียนรู้ของเด็กจะเกิดจำกกำรได้รับประสบกำรณ์ตรงจำกกำรได้ฟัง ได้ดม                     หนักแน่นพร้อมเผชิญปัญหำและอุปสรรค มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ เพรำะมีบ้ำนเป็นฐำน

                                     ได้เห็น ได้ลิ้มรส ได้สัมผัสและลงมือท�ำสิ่งต่ำงๆ และเด็กนั้นเรียนรู้อยู่ตลอดเวลำ              ที่มั่นทำงใจ มีคนในครอบครัวที่พร้อมจะให้ก�ำลังใจ ให้อภัย และยินดีเมื่อประสบ
                                     กำรเรียนรู้ที่ดีจึงควรให้โอกำสเด็กได้หยิบจับ และลงมือท�ำ เริ่มจำกกิจวัตรประจ�ำวัน            ควำมส�ำเร็จ เด็กเหล่ำนี้จะเติบโตอย่ำงมีควำมรับผิดชอบต่อครอบครัว และขยำย

                                     ของตนเอง กำรช่วยงำนบ้ำน กำรมีน�้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น กำรเล่นและท�ำกิจกรรมที่                  ควำมรักควำมผูกพันสู่ครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น คือสังคมและประเทศชำติ
                                     สนุกสนำน

                                       เมื่อลงมือท�ำย่อมเกิดกำรเรียนรู้และเผชิญกับปัญหำในชีวิตประจ�ำวัน ลูกจะได้
                                     รับโอกำสในกำรฝึกทักษะกำรลงมือท�ำและแก้ปัญหำด้วยตัวเอง หำกติดขัดก็ได้รับ

                                     กำรชี้แนะอย่ำงเหมำะสม ยิ่งท�ำมำกก็ยิ่งท�ำให้เกิดกำรพัฒนำทักษะสมอง EF
                                     ในหลำยด้ำนด้วยกัน หรืออำจจะเรียกว่ำได้ฝึกทักษะครบทุกองค์ประกอบก็ว่ำได้

                                     เช่น ด้ำนจดจ่อใส่ใจ จ�ำเพื่อใช้งำน ยืดหยุ่นควำมคิด  ยั้งคิดไตร่ตรอง ริเริ่มลงมือท�ำ
                                     เป็นต้น และจะน่ำเสียดำยแค่ไหนถ้ำเรำไม่ปล่อยให้ลูกได้ท�ำอะไรด้วยตัวเอง เพรำะ

                                     กลัวลูกท�ำไม่ได้ท�ำไม่ดี ใจร้อนด่วนท�ำให้ลูกเสียเอง หรือสุขใจที่ได้ท�ำให้ลูกเพรำะ
                                     เห็นว่ำยังเล็ก ดังนั้น เมื่อลูกประสบปัญหำที่ลูกพอรับมือได้ อย่ำยื่นมือเข้ำไปช่วย

                                     เร็วเกินไป ปล่อยให้ลูกได้เผชิญปัญหำและหำทำงแก้ด้วยตนเอง กำรให้ลูกเผชิญ






            168                                                                                                                                                                                                                  169
   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172   173