Page 167 - คู่มือ Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย
P. 167
บทบาทของพ่อแม่เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะสมอง หรือลงมือท�ำสิ่งต่ำงๆ ไปด้วยกัน เช่น สนุกกับกำรท�ำอำหำร เตรียมจัดงำน
EF ของเด็ก วันเกิดให้คุณยำย จะช่วยให้เรำเข้ำใจลูกได้ดีขึ้น ได้เห็นวิธีคิด วิธีกำรท�ำงำน
คุณครูควรส่งเสริมให้พ่อแม่มีควำมตระหนักถึงควำมส�ำคัญยิ่งของตนในกำร กำรตัดสินใจเลือกและยังได้สนุกสนำน ได้เผชิญอุปสรรคไปพร้อมๆ กัน ลูกๆ
พัฒนำทักษะสมอง EF บทบำทของพ่อแม่ควรจะเป็นดังนี้ จะรู้สึกว่ำพ่อแม่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน
1. มีความสนใจ ใฝ่รู้ 4. ฝึกวินัยเชิงบวก
พ่อแม่ควรหำควำมรู้ควำมเข้ำใจที่เกี่ยวข้องกับกำรส่งเสริมกำรพัฒนำทักษะ กำรฝึกวินัยเชิงบวก หมำยถึง กำรฝึกฝนให้ลูกมีพฤติกรรมที่เหมำะสม โดย
สมอง EF และควำมรู้อื่นที่เกี่ยวข้องกับกำรส่งเสริมพัฒนำกำรและทักษะที่จ�ำเป็น เกิดจำกกำรก�ำกับตัวเองได้ ภำยใต้บรรยำกำศที่ดีในกำรฝึกฝน ลูกจะรู้สึกถึง
ส�ำหรับลูกจำกหลำกหลำยแหล่งที่เชื่อถือได้ กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับเพื่อน ควำมก้ำวหน้ำที่เพิ่มขึ้น ภูมิใจที่สำมำรถก�ำกับตัวเองได้ ได้เรียนรู้วิธีกำรที่จะวิเครำะห์
ผู้ปกครองร่วมไปกับครูของลูก ค้นคว้ำข้อมูลจำกหนังสือหรือ Website แล้วน�ำ พฤติกรรมของตนว่ำมีผลต่อตนเองหรือผู้อื่นอย่ำงไร และเรียนรู้วิธีที่จะพัฒนำตนเอง
ควำมรู้มำวิเครำะห์และปรับให้เหมำะสมกับวิถีชีวิตของพ่อแม่และลูก เมื่อลูกใช้วินัยก�ำกับตัวเองไปเป็นระยะเวลำนำนก็จะเกิดเป็นพฤติกรรม
ควำมเคยชิน และค่อยๆ กลำยเป็นลักษณะนิสัยที่ดี และลงลึกถึงกำรมีจิตส�ำนึก
2. สร้างความผูกพันที่ดี ที่ดีในที่สุด เช่น กำรฝึกให้ลูกเก็บของเล่นของใช้เข้ำที่ทุกครั้ง ลูกจะเติบโตเป็นคน
ที่มีควำมรับผิดชอบต่อกำรกระท�ำของตน เป็นคนมีระเบียบ มีส�ำนึกต่อกำรรักษำ
ควำมรักควำมผูกพันในครอบครัว ระหว่ำงพ่อแม่กับลูก ระหว่ำงพ่อกับแม่
และสมำชิกในครอบครัว บนพื้นฐำนของควำมรัก ให้เกียรติ ให้อภัย และยอมรับ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ในควำมแตกต่ำง ควำมผูกพันที่ดีในครอบครัวจะเป็นรำกฐำนที่ส�ำคัญของควำม เมื่อกำรฝึกวินัยเชิงบวกเป็นกำรฝึกกำรก�ำกับตัวเองของลูก จึงหลีกเลี่ยงกำรฝึก
มั่นคงทำงจิตใจ เห็นคุณค่ำของตนเอง ท�ำให้มีควำมพร้อมที่จะเปิดโลกกำรเรียนรู้ ด้วยวิธีกำรลงโทษ เพรำะเป็นกำรควบคุมโดยใช้อ�ำนำจจำกภำยนอกที่จะหยุดพฤติกรรม
มีควำมกระตือรือร้น มีชีวิตชีวำ มีจิตใจที่เข้มแข็ง กล้ำเผชิญกับปัญหำและอุปสรรค ที่ไม่เหมำะสมเพียงชั่วครั้งชั่วครำว หรือเมื่ออยู่ต่อหน้ำผู้ใหญ่เด็กหยุดท�ำพฤติกรรม
เช่นเดียวกัน ควำมผูกพันที่ดีก็จะมีผลต่อกำรพัฒนำทักษะสมอง EF เพรำะสมองจะ ได้แต่จะมีควำมรู้สึกทำงลบ เช่น ควำมเครียด กดดัน กลัว โกรธ นั่นย่อมกล่ำวได้ว่ำ
เปิดรับกำรเรียนรู้และท�ำงำนได้ดีในสภำวะที่คนเรำรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย กำรฝึกด้วยกำรลงโทษไม่อำจสร้ำงวินัยในตนเองให้เกิดขึ้นกับเด็กได้นั่นเอง
กำรสร้ำงวินัยเชิงบวกที่ช่วยส่งเสริมพัฒนำกำรทักษะสมอง EF ของเด็กได้
3. เรียนรู้ที่จะรู้จักลูก อย่ำงมีประสิทธิภำพ จะต้องมีองค์ประกอบ 5 T (Thanasetkorn, 2009) ได้แก่
• T-Target behavior (ก�ำหนดเป้ำหมำยพฤติกรรมที่ต้องกำรฝึก)
กำรพัฒนำลูกให้มีทักษะสมอง EF ที่ดี และกำรส่งเสริมพัฒนำกำรทุกด้ำน • T-Teach (สอนว่ำจะต้องท�ำอย่ำงไร)
ของลูกนั้น ไม่ใช่เพียงกำรน�ำควำมรู้และกระบวนกำรต่ำงๆ มำใช้ทันที แต่พ่อแม่ต้อง • T-Train (ฝึกฝนให้ท�ำจนเกิดควำมคล่องแคล่ว)
ให้ควำมส�ำคัญกับกำรเรียนรู้ “ลูก” ให้รู้จักที่จะเข้ำใจและยอมรับควำมเป็นตัวตน • T-Time (ให้เวลำในกำรฝึกและค่อยๆ พัฒนำเป็นจิตส�ำนึกที่ดี)
ของลูก ควำมสำมำรถ ควำมถนัด จุดแข็งจุดอ่อนของลูก ไม่เอำลูกมำเปรียบเทียบ • T-Trust (กำรฝึกฝนอยู่ภำยใต้ควำมรู้สึก “เชื่อใจกัน” ของพ่อแม่และลูก)
กัน หรือเปรียบเทียบกับเด็กอื่น กำรเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูกด้วยกำรท�ำกิจกรรม (ดูรำยละเอียดเพิ่มเติมในบทที่ 7)
166 167