สอบถามการใช้งานระบบ?

(02)913 - 7555 กด 4104

ฝ่ายบริการสมาชิกเว็บไซต์

ครู โรงเรียน กับ การเห็นคุณค่าในตนเองของเด็ก

เด็กบางคนโชคร้ายไม่ได้รับโอกาสพัฒนา Self-Esteem จากพ่อแม่ในช่วงวัยเริ่มต้นของชีวิต ก็อาจมีโอกาสครั้งที่สองที่โรงเรียน นี่คือหลักการทั่วไปที่ควรคาดหวังได้ 

แต่ถ้าครูไม่เข้าใจเรื่องนี้ ก็อาจเป็นโชคร้ายที่ซ้ำสองของเด็กคนนั้น !!??

งานวิจัยมากมายยืนยันว่า ถ้าครูมีศรัทธาในเด็ก เชื่อว่าเด็กมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ และมุ่งมั่นที่จะแปรความรักความเมตตาของตน ให้กลายเป็นความเอาใจใส่ กำลังใจ ให้การกระตุ้นเชิงบวก ให้คำชี้แนะ ให้โอกาสฝึกฝนในสิ่งที่เด็กสนใจ ให้คำชมเชยที่กระบวนการ ครูก็จะมีอิทธิพลต่อชีวิตของเด็กอย่างน่าอัศจรรย์ สามารถสร้างความเชื่อมั่น ให้เด็กเห็นคุณค่าในตนเองเด็กได้ และนั่นคือการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเด็กอย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ มีตัวอย่างมากมายของครูที่สร้าง Self-Esteem ให้แก่เด็ก เช่น ภาพยนตร์ที่สะท้อนบทบาทของครูต่อการสร้างแรงบันดาลใจ และฟื้นความภาคภูมิใจในตนเองของเด็กที่มีลักษณะพิเศษแบบ Dyslexia ซึ่งมีความลำบากในการอ่านหรือตีความคำ ตัวอักษร ฯลฯ ในเรื่อง Taare Zameen Par (Stars on Earth) โดย Aamir Khan ผู้กำกับภาพยนตร์ระดับโลกชาวอินเดีย

 งานวิจัยชี้ว่าคุณลักษณะพึงประสงค์ทั้งหลาย อย่างเช่น “ล้มแล้วลุกได้” (Resilience) หรือความหลงไหลในสิ่งที่ทำ (Passion) รักการเรียนรู้ (Curiosity) หรือแม้แต่การเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-Esteem) ในตัวนักเรียนนั้น ส่วนใหญ่สัมพันธ์กับบทบาทท่าทีที่ครูมีต่อเด็ก เรามักพบเด็กจำนวนมากที่สะท้อนว่าที่ตนเรียนได้ดี ก็เพราะรักครู ชื่นชอบในตัวครู ครูให้ความใส่ใจ บางครั้งเด็กอาจเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับวิชานี้ แต่เมื่อขึ้นชั้นมาอยู่กับครูคนนี้ กลับกลายเป็นรักวิชานี้และทำคะแนนได้ดีมาก ก็เพราะรักครู

ดังนั้น “ครูที่มีอยู่จริง” จึงมีความหมายต่อเด็กทุกคน ทุกวัย  

ครูที่มีอยู่จริง คือ ครูที่ใส่ใจเด็กแต่ละคน มองเห็นศักยภาพ จุดแข็งจุดอ่อนในตัวเด็ก พร้อมตอบสนองและสร้างโอกาสให้เรียนรู้ ปรับตัว ชี้แนะตามความเป็นจริง ครูเช่นนี้จะสร้างความหวังและเป็นกำลังใจให้เด็กพร้อมที่จะไปสู่ความสำเร็จ “ครูที่มีอยู่จริง” จะมีบทบาทในการพัฒนาความรู้สึกดีต่อตนเอง และรู้สึกมีศักดิ์ศรี หนุนพลังการเห็นคุณค่าในตนเอง และเสริมความเข้มแข็ง ล้มแล้วลุกได้ให้แก่เด็ก 

“ครูที่มีอยู่จริง”ต้องมีเจตคติทางบวกต่อตัวเอง และต่อเด็กนักเรียน ต้องมีความเชื่อว่า ;

  • เด็กทุกคนต้องการเรียนรู้ และต้องการประสบความสำเร็จที่โรงเรียน ถ้านักเรียนไม่สำเร็จ แสดงว่าต้องมีปัญหาอะไรบางอย่างที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นเขาอยู่ ซึ่งครูควรหาให้เจอ เพื่อจะคิดค้นหาทางส่งเสริมช่วยเหลือ
  • ถ้าเด็กนักเรียนแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการถดถอย ไม่เห็นค่าตนเอง เช่นดูถูกตนเอง ไม่พยายามตั้งใจเท่าที่ควร ทำตัวก้าวร้าวรังแก หรือทำเป็นตัวตลกไร้สาระ ฯลฯ ครูควรเห็นว่าพฤติกรรมเหล่านี้ คือวิธีปิดบังความรู้สึกกลัวหรือความกังวลในตนเอง แทนที่ครูจะมัวไปตำหนิลงโทษ หรือดุว่า… ครูจำเป็นต้องถามตนเองว่า จะหาวิธีลดทอนประสบการณ์หรือความรู้สึกสิ้นหวังของเด็กๆเหล่านี้ได้อย่างไร
  • เด็กทุกคนมีจุดดีจุดแข็งของตนเอง ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งผู้ใหญ่เราต้องมองให้เห็น ระบุออกมาให้ได้ แล้วเสริมแรง คู่ขนานกันไปกับการหาทางลดพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านี้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า เราจะปฏิเสธปัญหาหรือจุดอ่อนของเขา หากแต่ครูเลือกแนวทางที่ส่งเสริมจุดแข็ง ดึงออกมาให้โดดเด่น เพื่อเป็นกำลังใจ มากกว่าจะเสียเวลาไปกับการจี้ย้ำซ้ำเติมในจุดอ่อนของเด็ก ครูจำเป็นต้องสอนนักเรียนให้หาทางออกใหม่ๆ ที่จะให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาจะชื่นชมตนเองได้
  • ครูควรให้เด็กมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ศึกษาของตัวเอง ชวนให้เขาคิดวางแผนและกำหนดจังหวะก้าวเพื่อเป็นเจ้าของการเรียนรู้ของตนเอง ไม่ใช่ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการให้เสียทุกอย่าง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ครูจะต้องระวังอย่างยิ่งคือ การสร้างความภาคภูมิใจในตัวเด็ก จะต้องไม่อยู่บนผลงานว่าสำเร็จหรือล้มเหลว เพราะนั่นไม่ใช่การสร้างคุณค่าในตนเองที่ยั่งยืนและมีคุณค่าแท้จริง หากจะต้องให้ความสำคัญต่อกระบวนการ การได้มาซึ่งความสำเร็จที่เป็น “ของจริง” เด็กต้องรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าควรค่าแก่การภาคภูมิใจที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ที่ได้มีความคิดมุมมองใหม่ๆ ที่ได้ใช้ความพยายามของตนเองอย่างมุ่งมั่นจริงจัง

ครูยังเสริม Self-Esteem ของเด็กได้ด้วยการให้เสียงสะท้อนกลับ (Feedback) ที่ตรงไปตรงมา แต่สร้างสรรค์ให้กำลังใจ ให้เขาเห็นและภาคภูมิใจในจุดแข็งของเขา มั่นใจขึ้นว่าตนเองเริ่มมีทุนชีวิตที่สะสมเพิ่มขึ้น แม้จะทีละเล็กทีละน้อย เพื่อที่จะนำทุนชีวิตเหล่านี้ ไปใช้ได้ในการเผชิญหน้ากับอนาคตที่ไม่แน่นอนข้างหน้า ขณะเดียวกันเด็กก็เห็นจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงพัฒนาของตนเอง และได้ร่วมวางแนวทางแก้ไขตนเองด้วยการฝึกใช้สมองตรองคิดด้วยตนเอง  โดยครูให้ “ลองคิดดูสิว่า เธออยากจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร” แล้วครูค่อยเติมเต็มตามสมควร แต่ไม่ใช่ครูเป็นผู้สั่งให้แก้ไขปรับปรุงอย่างโน้นอย่างนี้

ครูยังอาจจะมีบทบาทในการเสริมสร้าง Self-Esteem ของเด็กได้อีก ด้วยการหาทางกระตุ้นให้เด็กลองคิดเรื่องใหม่ๆ มีโอกาสสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เมื่อครูให้โจทย์ที่แปลกใหม่ ท้าทาย และให้ความเชื่อมั่นไปพร้อมกันด้วยว่า ครูว่าเธอทำได้ เด็กๆจะกล้าท้าทายตนเอง รับโจทย์แล้วคิดค้นหาทาง เมื่อเขาทำได้ แก้ปัญหาได้ทีละเปลาะ นั่นคือรางวัลความภาคภูมิใจที่จะหล่อเลี้ยงพลังในการเผชิญสิ่งท้าทายอื่นๆ ต่อไป

เมื่อเด็กคนหนึ่งเกิด Self -Esteem ขึ้นในห้องเรียน มันจะมีพลังที่ส่งต่อไปยังเด็กคนอื่นๆ ให้อยากที่จะท้าทายและสะสมความรู้สึกนั้นเช่นเดียวกัน บรรยากาศการเรียนรู้ในห้องเรียนก็จะเปลี่ยนไป

Related Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

Stay Connected

74,430แฟนคลับชอบ
- โครงการ “สื่อเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาเด็กปฐมวัย ในวิถีชีวิตใหม่” -
- EF Development Tools -

Latest Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

นายสวัสดิ์ เมฆสุนทร  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ จ.นครราชสีมา 

ผอ.สวัสดิ์ได้รับการแนะนำจากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ให้รู้จัก EF รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง EF ในการประชุมเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง(TSQP)อยู่เสมอ และเข้ารับการอบรมกับสถาบัน RLG เพิ่มเติม  แล้วเห็นว่า EF เป็นความรู้พื้นฐานหรือความรู้ปฐมบทที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ว่าสถานะใดควรต้องรู้ ไม่ใช่เฉพาะผู้ปกครองชนชั้นกลางขึ้นไปที่มีความรู้ หรือเป็นความรู้ในหมู่ครูอาจารย์หรือแพทย์เท่านั้น  ครอบครัวที่ด้อยโอกาสก็ควรต้องรู้ สรุปคือสังคมไทยควรต้องเรียนรู้เรื่อง EF เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันจึงสนับสนุนให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนได้รับการอบรม EF จากสถาบัน RLG และดำเนินการปรับสนามเด็กเล่นเพื่อให้เด็กได้เล่นอิสระอย่างปลอดภัยและมีความสุข...

นายจรูญ น้อยสำราญ  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบอน จ.ตราด

โรงเรียนบ้านหนองบอนเป็นโรงเรียนหนึ่งในเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQD) กสศ.ซึ่งทำให้ผอ.จรูญได้เริ่มรู้จัก EF แล้วทำให้อยากรู้ว่า EF คืออะไร เมื่อพบว่าสถาบัน RLG มีการอบรมเรื่องนี้จึงสมัครเข้ารับอบรมพร้อมครูอนุบาล 2 คน  แล้วได้เห็นว่า EF เป็นคำตอบเรื่องการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และการพัฒนาเด็กให้เต็มศักยภาพ จึงนำความรู้ EF มาถ่ายทอดให้ครูในโรงเรียน โดยใช้สื่อจากสถาบันRLG ให้ครูเรียนรู้ และมอบหมายให้รองผอ.ติดตามการดำเนินการขับเคลื่อนความรู้ EF สู่การปฏิบัติในชั้นเรียนอนุบาล...