Page 77 - Executive Functions ในเด็กวัย 13-18 ปี
P. 77
ชีวิตมำกขึ้น เด็กจะเห็นคุณค่ำของสิ่งที่เรียน สนุกและน�ำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่ำงแท้จริง กำรเรียนรู้แบบ Active Learning ส่งเสริม EF ในวัยรุ่น
ปัญหำใหญ่ๆ หลำยเรื่องจะได้รับกำรแก้ไขไปโดยปริยำย เรำสำมำรถน�ำเรื่องกำรหำ
อัตลักษณ์ กำรหำแก๊งเพื่อน กำรหำอำชีพและกำรหำพันธุกรรมอื่นเพื่อสืบพันธุ์มำเป็น หัวใจของกำรเรียนรู้แบบ active learning คือกำรออกแบบกำรเรียนรู้มำเพื่อให้
ประเด็นในกำรพัฒนำทักษะสมอง EF หรือที่เรำอำจจะเรียกกันในภำษำดั้งเดิมว่ำ สมำชิก “ทุกคน” ในกลุ่มท�ำบำงอย่ำง เมื่อท�ำส�ำเร็จแล้วต้องมี after action review (AAR)
“สันดำน” ซึ่งคือกำรควบคุมอำรมณ์ ควำมคิด และกำรกระท�ำ เพื่อไปให้ถึงเป้ำหมำย คือหลังจำกกำรเรียนรู้เสร็จสิ้นลง เด็กทุกคนทั้งเก่งและไม่เก่ง ได้มีโอกำสพูดว่ำเมื่อจบ
ได้ เพรำะ 3 เรื่องที่กล่ำวมำนี้คือเป้ำหมำยตำมธรรมชำติของช่วงชีวิตวัยรุ่น กำรเรียนรู้เรื่องนี้แล้วตน “รู้สึก”อย่ำงไร ได้เรียนรู้อะไร อะไรที่ท�ำได้ดี และอะไรที่ต้องกำร
กำรพัฒนำ เพื่อให้เด็กทุกคนได้ “เห็นคุณค่ำในตนเอง” (self- esteem) ทุกวัน
ควำมรู้ที่จ�ำเป็นส�ำหรับวัยรุ่นในศตวรรษที่ 21 กำรเห็นคุณค่ำตนเองนี้เป็นแรงผลักส�ำคัญในกำรน�ำพำมนุษย์สู่ควำมส�ำเร็จ เด็ก
ทำรกปีนบันไดส�ำเร็จดีใจ ปีนอีกส�ำเร็จอีกก็ดีใจ นี่คือแรงผลัก เด็กทุกคนก็ต้องกำรท�ำ
ดังนั้นในโลกศตวรรษที่ 21 เมื่อแปลควำมเข้ำใจทักษะสมอง EF ทฤษฎีด้ำน อะไรส�ำเร็จทุกวันเช่นกัน เมื่อไม่สำมำรถเรียนเก่งได้ พวกเขำจึงมีแนวโน้มที่จะท�ำสิ่งที่
พัฒนำกำร เป้ำหมำยของวัย และกำรเตรียมคนมำท�ำหน้ำที่ผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ในบริบท ส�ำเร็จได้ง่ำย เช่น กำรตีกัน กำรใช้ยำเสพติด กำรหลอกเพื่อนมำนอนด้วย นั่นเป็นควำม
ปัจจุบันของโลก ออกมำเป็นเป้ำหมำยรูปธรรมในกำรจัดกำรศึกษำ กำรศึกษำที่ส�ำคัญ ส�ำเร็จอย่ำงหนึ่งแต่ไปผิดทำง เนื่องจำกธรรมชำติของมนุษย์นั้นเลือกทำงที่ง่ำยกว่ำเสมอ
และจ�ำเป็นต่อชีวิตควรจะเหลือเนื้อหำวิชำพื้นฐำนที่จ�ำเป็นต้องเรียนเพียง 4 วิชำคือ เมื่อเรียนวิชำกำรยำกมำกแต่ตีกันง่ำยกว่ำเยอะ เรำคงเข้ำใจได้ไม่ยำกว่ำท�ำไมเด็กจึงหำ
ทำงออกไปเช่นนั้น
2 4
1 วิชาว่าด้วยการบริหาร 3 วิชาว่าด้วย
วิชาว่าด้วยสุขภาพ การเงิน/เศรษฐศาสตร์ วิชาว่าด้วย สังคมพลเมือง กำรออกแบบกำรเรียนรู้แบบ active learning ต้องกำรครูที่มีควำมรู้ และประสบกำรณ์
(health) (economics) สิ่งแวดล้อมที่ดี (civil society) ที่ส�ำคัญครูต้องมี “เสรีภำพ” ในกำรออกแบบกระบวนกำรเรียนรู้และต้องมำ
(environment)
ประชุมกัน สร้ำงชุมชนกำรเรียนรู้ (PLC - Professional Learning Community)
ของครูขึ้นมำแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันว่ำกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ที่ท�ำมำเป็นอย่ำงไร
จะออกแบบกำรเรียนรู้อย่ำงไรให้ดีขึ้นเพื่อให้เด็กได้เห็น “คุณค่ำของตนเอง” ทุกวัน
โดยผ่ำนกำรเรียนรู้แบบ active learning ไม่ว่ำจะเป็นกำร
เรียนแบบ problem - based learning หรือ project - based
learning ให้ได้ใช้ทักษะสมอง EF
โดยมีหลักกำรว่ำกำรเรียนรู้ควรจะ เด็กได้ท�ำงำนกันเป็นกลุ่ม ได้ท�ำบำงอย่ำงส�ำเร็จ ให้ทุกคนในกลุ่มได้ชื่นใจว่ำ
1. ต้องมีควำมสัมพันธ์กับชีวิตเด็ก โจทย์ที่เรียนต้องมีควำมหมำยกับชีวิต “ฉันเป็นคนมีคุณค่ำ” วัยรุ่นแต่ละคนจึงจะสำมำรถก้ำวไปเป็นพลเมืองคุณภำพ
2. สิ่งที่เรียนต้องมีควำมสัมพันธ์กับชุมชนคือบ้ำนและโรงเรียน ก้ำวข้ำมพ้นไปจำกวงจรปัญหำควำมรุนแรง ยำเสพติดและกำรท้องก่อนวัยอันควร
3. ต้องเป็นกำรท�ำงำนกลุ่มที่สมำชิกมีควำมหลำกหลำยคละกันไป เช่น มีทั้งคนเก่ง ไม่เก่ง รวย จน ต่ำงศำสนำ เป็นต้น
4. เป็นกำรเรียนรู้ของกลุ่มที่มีกำรลงมือท�ำ มีโจทย์ที่ต้องแก้และลงมือท�ำจริง
76 77