Page 145 - คู่มือ Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย
P. 145

ดังนั้นควำมท้ำทำยของกำรเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยเพื่อส่งเสริมทักษะสมอง EF      ในทำงตรงข้ำม หำกตอบสนองพฤติกรรมของเด็กแบบอัตโนมัติ และไม่สำมำรถ
 ในข้อสุดท้ำย คือ กำรท�ำให้เป้ำหมำยของเด็ก ครู และพ่อแม่มีควำมสมดุลกัน    ตอบสนองควำมต้องกำรของเด็กได้อย่ำงต่อเนื่อง คุณภำพควำมผูกพันจะพัฒนำขึ้น

 ด้วยวิธีกำรฝึกฝนที่จะช่วยจูงใจให้เด็กเกิดควำมมุ่งมั่น มีมำนะ รักษำสมำธิ และ   มำเป็นควำมผูกพันแบบไม่ปลอดภัย (Insecure Attachment) เก็บไว้เป็นควำมทรง
 ลงมือท�ำจนส�ำเร็จตำมเป้ำหมำย  จ�ำระยะยำว

                 ควำมผูกพันแบบไม่ปลอดภัยที่ฝังไว้ในควำมทรงจ�ำระยะยำว จะท�ำหน้ำที่
 ควำมส�ำคัญของกำรสร้ำงวินัยเชิงบวกต่อกำรส่งเสริมทักษะสมอง EF  เป็น“ประสบกำรณ์” ให้ระบบลิมบิกของเด็กคอยระแวดระวังภัย ไม่มีควำมมั่นคง

   เป็นเครื่องมือให้ครูปฐมวัยและพ่อแม่ใช้ทักษะสมอง EF ในการเลี้ยงดูเด็ก  ทำงอำรมณ์ ไม่มีสมำธิจดจ่อ และเรียกร้องหำควำมต้องกำรเพื่อเติมเต็มจิตใจด้วย
  99 % ของพ่อแม่และครูปฐมวัย     เนื่องจำก โมเดล 5T เป็นหลักกำรท�ำงำนของกำรสร้ำงวินัยเชิงบวกที่ท�ำให้เกิด  พฤติกรรมที่ไม่เหมำะสม ท�ำให้ทักษะสมอง EF พัฒนำขึ้นอย่ำงไม่มีคุณภำพ ส่งผล
 ในประเทศไทย (n = 7422)
 ใช้การสร้างวินัยเชิงลบในการ  แรงจูงใจในกำรท�ำพฤติกรรมเป้ำหมำย ดังนั้นกำรตระหนักถึงหลักกำรท�ำงำนตำม  ต่อคุณภำพควำมคิดและกำรมองโลกของเด็กที่ไม่ดีอีกด้วย
 ควบคุมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม  โมเดล 5T จะช่วยให้ผู้เลี้ยงดูเรียนรู้ที่จะใช้ทักษะสมอง EF ในกำรควบคุมสมอง
 ของเด็ก เช่น การเปรียบเทียบ ข่มขู่
 หลอกล่อ ต่อว่าเด็กต่อหน้าผู้อื่น   ส่วนลิมบิคและสมองส่วนแกน เพื่อควบคุมอำรมณ์ไม่ให้ตอบสนองต่อพฤติกรรมของ    ช่วยให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมที่เหมาะสมตามธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็ก
 ลงโทษและตี  เด็กแบบอัตโนมัติ และสำมำรถระบุพฤติกรรมเป้ำหมำยที่ต้องกำรจะสอนก่อน แล้ว    ตำมธรรมชำติกำรเรียนรู้ของเด็ก เด็กจะเรียนรู้ได้เร็วจำกกำรสังเกต ซึมซับ
 Thanasetkornetal., 2015
 จึงเลือกวิธีกำรสอนและฝึกฝนให้บรรลุตำมเป้ำหมำย   เลียนแบบพฤติกรรมรอบข้ำง จำกกำรลงมือท�ำและฝึกฝน ดังนั้นพ่อแม่และครู
   และเช่นเดียวกัน กำรตอบสนองต่อพฤติกรรมของเด็กแบบอัตโนมัติที่ท�ำให้เด็ก  ปฐมวัยที่ใช้กำรสร้ำงวินัยเชิงบวก จึงเป็นแบบอย่ำงที่ดีให้เด็กๆ ได้สังเกต ซึมซับ

 รู้สึกไม่ปลอดภัยก็จะเป็นกำรกระตุ้นให้สมองส่วนลิมบิคและสมองแกนของเด็กไป  และเลียนแบบพฤติกรรมกำรปฏิบัติตนต่อผู้อื่นด้วยกำรให้เกียรติและเคำรพ
 ควบคุมระบบกำรท�ำงำนของสมองทั้งหมด โดยไม่ผ่ำนกระบวนกำรท�ำงำนของทักษะ  ในสิทธิของผู้อื่น

 สมอง EF พฤติกรรมของเด็กที่แสดงออกมำจึงไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นกำรส่งเสริม    นอกจำกนี้กำรสร้ำงวินัยเชิงบวกยังเน้นกำรมุ่งเป้ำไปที่พฤติกรรมเป้ำหมำย
 ทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัย จึงจ�ำเป็นต้องใช้ทักษะสมอง EF ของผู้เลี้ยงดู   ดังนั้นพ่อแม่และครูปฐมวัยที่ใช้กำรสร้ำงวินัยเชิงบวก จะให้โอกำสเด็กเล็กได้ลงมือ

 เด็กเล็กที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วย   ในกำรส่งเสริม  ท�ำพฤติกรรมที่คำดหวัง และฝึกปฏิบัติจนติดตัวเป็นนิสัยและวินัยในตนเอง ในทำง
 การสร้างวินัยเชิงบวก จะมีความ  ตรงข้ำม กำรสอนที่กระตุ้นสมองลิมบิกให้ควบคุมกำรท�ำงำนของสมอง คือ กำรสอน
 สัมพันธ์ที่ดีกับผู้เลี้ยงดู ไม่ว่าจะเป็น    เป็นเครื่องมือปลูกฝังความผูกพันแบบปลอดภัย ซึ่งเป็นรากฐานของ   ที่ท�ำให้เด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นกำรตัดโอกำสในกำรฝึกฝนทักษะสมอง EF
 พ่อแม่และครูปฐมวัย และมีทักษะ
 สมอง EFดีกว่าเด็กเล็กกลุ่มที่ได้รับ  คุณภาพ EF   ของเด็กปฐมวัย นอกจำกนี้กำรสอนที่เป็นนำมธรรม และกำรใช้ค�ำพูดที่ท�ำให้สมอง
 การเลี้ยงดูด้วยการใช้ความรุนแรง    กำรสร้ำงวินัยเชิงบวก เป็นกำรวำงรำกฐำนควำมสัมพันธ์แบบไว้ใจและกำรเคำรพ   ต้องท�ำงำนซับซ้อน ก็เป็นกำรสอนที่ไม่สอดคล้องกับพัฒนำกำรทักษะสมอง EF
 ทางวาจา จิตใจ และร่างกาย และ
 การลงโทษ   ให้เกียรติซึ่งกันและกันระหว่ำงผู้เลี้ยงดูและเด็กเล็กอย่ำงต่อเนื่องจนพัฒนำเป็นควำม  ของเด็กปฐมวัยเช่นเดียวกันซึ่งจะท�ำให้เด็กเกิดควำมคับข้องใจ ไม่เข้ำใจ และไม่ลงมือ
 (Thanasetkorn, 2009a;   ผูกพันแบบปลอดภัย และถูกเก็บเป็นควำมจ�ำระยะยำว ควำมผูกพันแบบปลอดภัย  ท�ำอีกด้วย
 Thanasetkorn, 2009b)
 ที่ฝังอยู่ในควำมทรงจ�ำระยะยำว จะท�ำหน้ำที่เป็น “ประสบกำรณ์” ให้ทักษะสมอง     ตัวอย่ำงเช่น ค�ำว่ำ “ห้ำม”“ไม่”“อย่ำ” และ“หยุด” เป็นค�ำพูดที่สมอง

 EF ดึงมำใช้ในกำรเชื่อมโยงกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน เพื่อท�ำงำนให้บรรลุเป้ำหมำย  ต้องท�ำกำรประมวลผล 2 ครั้ง เพรำะสมองไม่สำมำรถสร้ำง “ภำพปฏิเสธ” ขึ้นมำ
 อย่ำงมีคุณภำพและสร้ำงสรรค์ได้  ในสมองก่อนได้ เมื่อเรำบอกว่ำ “ไม่วิ่ง” เด็กๆ จะต้องสร้ำงภำพ “วิ่ง” ขึ้นมำ






 144                                                                                                         145
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150