สอบถามการใช้งานระบบ?

(02)913 - 7555 กด 4104

ฝ่ายบริการสมาชิกเว็บไซต์

ใส่ใจความเครียดของเด็กในสถานการณ์โควิด

ใส่ใจความเครียดของเด็กในสถานการณ์โควิด

สถานการณ์โควิด 19 ทำให้ทุกคนต้องรักษาระยะห่างทางร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากยิ่งทั้งสำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู ผู้ดูแลเด็ก และตัวเด็กเอง ที่จะให้เด็กรักษาความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ การที่เด็กไม่สามารถเล่นหรือสัมพันธ์กับเพื่อนๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาวะทางอารมณ์ของเด็ก เช่นเครียด กังวล  ซึ่งในที่สุดก็อาจจะส่งผลลกระทบต่อการเรียนรู้และการพัฒนาในด้านต่างๆ ต่อไปด้วย  แม้ว่าสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (American Psychological Association – APA) จะบอกว่า ความกลัวและความเครียดเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติที่เป็นปกติที่สุดเมื่อชีวิตเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง รุนแรง รวดเร็วและคาดการณ์ไม่ได้

องค์การอนามัยโลก (WHO)[1] ชี้ว่าในช่วงวิกฤตนั้น “เป็นเรื่องสำคัญจำเป็นยิ่งที่เราจะต้องใส่ใจ ยอมรับความเครียดและความกลัวของกันและกัน ไวต่อความรู้สึกเหล่านั้นและไม่เพิกเฉย”

และสำหรับเด็กๆ แม้แต่เด็กปฐมวัยทุกคนก็สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงนี่ได้ แต่อาจไม่ค่อยเข้าใจนักและอาจแสดงออกเป็นความรู้สึกหงุดหงิด โกรธ  เรียกร้องจากพ่อแม่ผู้ปกครองมากกว่าเดิม ในขณะเดียวกันผู้ใหญ่ก็มีแรงกดดันในตัวเองมากอยู่แล้ว เช่น ไม่รู้จะตกงานไหม จะติดเชื้อหรือไม่ หรือบางครอบครัว พ่อแม่ตกงาน ค้าขายหาเงินไม่ได้ มีปัญหาเศรษฐกิจจนเกิดบรรยากาศตึงเครียดในครอบครัว ฯลฯ เหล่านี้ก็จะส่งผลกระทบต่อเด็ก เด็กมีความเสี่ยงที่จะถูกละเลยหรือถูกละเมิดด้วยความรุนแรงในครอบครัวได้

มาสร้างเสียงหัวเราะให้เด็กๆ กันเถอะ

นักวิชาการภาคี Thailand EF Partnership  มีข้อแนะนำหลายประการ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางในการส่งเสริมทักษะอารมณ์และสังคม(SEL) ในสถานการณ์โควิด19 ขององค์กร CASEL (The Collaborative for Academic, Social, and Emotional Learning) อันเป็นองค์กรที่ทำงานร่วมกับนักการศึกษา ผู้บริหารและครูเกี่ยวกับการส่งเสริมทักษะด้านอารมณ์และสังคมในเด็ก ที่ได้ให้ข้อแนะนำอันน่าสนใจในการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยในสถานการณ์โควิด19[2] ว่า ในช่วงโควิด ภาวะอารมณ์และสังคมของเด็กเป็นความสำคัญอันดับแรก

อาจารย์วิรรณ สารกิจปรีชา นายกสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยฯ ก็ได้ให้ตัวอย่างที่ดียิ่งของการใส่ใจในภาวะอารมณ์จิตใจและสังคมของเด็กในช่วงโควิด 19 ว่า  “ในฐานะผู้บริหารโรงเรียน ได้เรียกร้องให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนทุกคน ทำอย่างไรก็ได้ให้เด็กมีโอกาส “หัวเราะ” โดยถือเป็นความสำคัญอันดับแรกของการมาโรงเรียนในช่วงนี้”

องค์กรด้านการศึกษาและการพัฒนาของประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ UKfiet[3] ก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า การโฟกัสที่ความสุขของเด็ก เสียงหัวเราะของเด็ก จะช่วยให้เด็กรู้สึกถึงความรักของพ่อแม่หรือครูที่มีต่อพวกเขาว่า ผู้ใหญ่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องผลสำเร็จในการเรียนมากไปกว่าสนใจในความสุขของพวกเขา นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กได้คิดและทำในเรื่องใหม่ๆ ที่สนุกและสร้างสรรค์ทุกๆ วัน เด็กจะเรียนรู้ถึงการสร้างเป้าหมายในการปรับตัวตามวิถีชีวิตใหม่ในโลกยุคหลังไวรัสโคโรน่า และยังเปิดโอกาสให้เด็กและพ่อแม่ได้สะท้อนความคิดต่อกัน ที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแข็งแรงขึ้นด้วย

นอกจากนี้  CASEL ยังชี้ว่า

  • ไม่ว่าจะเรียนผ่านเทคโนโลยี ที่บ้านหรือที่โรงเรียน  อันดับแรกต้องโฟกัสที่ภาวะอารมณ์ที่ปลอดภัยของเด็ก และความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน กับผู้ใหญ่  ควบคู่ไปกับการเรียน
  • ให้ความสำคัญกับการสื่อสารสองทางระหว่างบ้านและโรงเรียน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่จะช่วยเหลือเด็กได้จริง และช่วยให้ผู้ปกครองได้สื่อสารถึงปัญหา ความทุกข์ ความเครียดกังวลของครอบครัวด้วย
คุณครูต้องปรับ mindset อย่ายึดมาตรการระยะห่างอย่างเถรตรง

การยึดมาตรการรักษาระยะห่างอย่างเถรตรง ไม่คิดสร้างสรรค์พัฒนากิจกรรมใหม่ๆ ที่สอดคล้อง กลับพาเด็กไปเข้าคอก หรือนั่งเงียบๆ อ่าน เขียน คัดลายมือ เป็นเวลานานๆ ในมุมของตน ไม่มีกิจกรรมสัมพันธ์กับใครเลยนั้นเป็นสิ่งที่คุณครูต้องหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการทำร้ายซ้ำเติมเด็กในสถานการณ์โควิดอย่างร้ายแรง เด็กจะยิ่งเครียดขึ้นไปอีก

ในช่วงเช่นนี้ คุณครูปฐมวัยจะต้องเข้าใจและช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์ ลดภาวะเครียดและสร้างโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ฝึกฝนทักษะสังคม-อารมณ์ โดยจัดกิจกรรมที่สนุก ให้เด็กได้เคลื่อนไหว ได้สื่อสารกับเพื่อนแม้ร่างกายต้องอยู่ห่างกัน ก็จะช่วยลดความเครียดของเด็กจากสถานการณ์รอบตัวให้บรรเทาเบาบางลงไปได้

ความรู้ชุด “ดูแลเด็กยุคโควิด” โดย สถาบัน RLG (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป)
ปรารถนา หาญเมธี : เขียน
ผาณิต บุญมาก : เรียบเรียง
ภาวนา อร่ามฤทธิ์ : บรรณาธิการ


[1] Hans Kluge, Mental health and psychological resilience during the COVID-19 pandemic,www.euro.who.int, 27-3-2020

[2]CASEL Guide: Effective Social and Emotional Learning Programs Preschool and Elementary School Edition,    2013,  https://casel.org/resources-covid/

[3]https://www.ukfiet.org/2020/the-new-normal-prioritising-child-wellbeing-in-india/

Related Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here

Stay Connected

74,430แฟนคลับชอบ
- โครงการ “สื่อเพื่อฟื้นฟูการพัฒนาเด็กปฐมวัย ในวิถีชีวิตใหม่” -
- EF Development Tools -

Latest Articles

นางกษมน มังคละคีรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อ จ.สกลนคร

โรงเรียนบ้านกลางนาเดื่อเป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQP) ผอ.กษมน ได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่องEF จากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา แล้วศึกษาเพิ่มเติมทางอินเทอร์เน็ตและเข้าอบรมกับสถาบันRLG เมื่อเดือนเมษายน 2564 โดยให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนเข้ารับการอบรมด้วย ซึ่งเป็นครูที่จบเอกปฐมวัยมาโดยตรง และมีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน เมื่อตระหนักถึงความสำคัญของ EF ตรงกัน ผอ.กษมนจึงให้ความสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้ครูปฐมวัยได้จัดการเรียนการสอนส่งเสริม EF โดยไม่ได้รอความเห็นชอบจากศน.เขตพื้นที่ฯ เพราะเห็นว่า EF เป็นความรู้ที่สอดคล้องกับหลักการศึกษาปฐมวัยอยู่แล้ว สามารถบูรณาการไปกับการส่งเสริมพัฒนาการ...

นางเปรมศิริ เนื้อเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบ้วย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย  จ.เพชรบุรี

ผอ.เปรมศิริได้รับการแนะนำให้รู้จักเรื่อง EFจากศึกษานิเทศน์เขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 2 และ ศน.เชิญชวนให้เข้ารับการอบรมความรู้ EF กับสถาบัน RLG แล้วนำความรู้ EF มาขยายสู่ครูปฐมวัยในโรงเรียนให้ครูได้ส่งเสริมEF เด็กผ่านโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย เนื่องจากมีความสอดคล้องกัน โดยบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยส่งเสริมให้เด็กได้คิดวิเคราะห์ เรียนรู้จากการลงมือทำ นอกจากนั้นยังวางแผนจะเชื่อมโยงความรู้ EF ไปสู่ครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองบ้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐาน EF ให้เด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่จะมาเรียนต่ออนุบาล 3 ที่โรงเรียนบ้านหนองบ้วย ทำให้เด็กได้รับการพัฒนา...

นายทวิต ราษี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูล จ.สุโขทัย

ผอ.ทวิต ราษี มีประสบการณ์บริหารโรงเรียนขนาดเล็กที่มีระดับชั้นปฐมวัยมานานโดยมีความตั้งใจในการพัฒนาอนุบาลให้มีคุณภาพเพราะเป็นการสร้างรากฐานให้เด็กไปจนโต และมีความสนใจในเรื่องพัฒนาการเด็ก เมื่อเข้าร่วมอบรมเรื่อง EF จากสถาบัน RLG ก็ได้เข้าใจว่าพัฒนาการของเด็กนั้นเกิดจากการทำงานของสมอง และยังเห็นว่าเรื่อง EF มีความสอดคล้องกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยที่โรงเรียนบ้านป้อมประชานุกูลดำเนินการอยู่ จึงสนใจที่จะขับเคลื่อนความรู้ EF ในโรงเรียน(ที่เพิ่งเข้ามาบริหาร) ผอ.ทวิตนำความรู้ EF มาถ่ายทอดแก่ครู ให้ครูนำความรู้ EF บูรณาการกับโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อยซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบโครงงาน เพียงครูเปลี่ยนวิธีการ ไม่ใช่ครูสั่งให้เด็กทำ แต่ให้เด็กได้คิดได้ทำด้วยตัวเอง...

นายสวัสดิ์ เมฆสุนทร  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโพธิ์ จ.นครราชสีมา 

ผอ.สวัสดิ์ได้รับการแนะนำจากอาจารย์วิเชียร ไชยบัง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ให้รู้จัก EF รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง EF ในการประชุมเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง(TSQP)อยู่เสมอ และเข้ารับการอบรมกับสถาบัน RLG เพิ่มเติม  แล้วเห็นว่า EF เป็นความรู้พื้นฐานหรือความรู้ปฐมบทที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ว่าสถานะใดควรต้องรู้ ไม่ใช่เฉพาะผู้ปกครองชนชั้นกลางขึ้นไปที่มีความรู้ หรือเป็นความรู้ในหมู่ครูอาจารย์หรือแพทย์เท่านั้น  ครอบครัวที่ด้อยโอกาสก็ควรต้องรู้ สรุปคือสังคมไทยควรต้องเรียนรู้เรื่อง EF เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาอย่างเท่าเทียมกันจึงสนับสนุนให้ครูปฐมวัยในโรงเรียนได้รับการอบรม EF จากสถาบัน RLG และดำเนินการปรับสนามเด็กเล่นเพื่อให้เด็กได้เล่นอิสระอย่างปลอดภัยและมีความสุข...

นายจรูญ น้อยสำราญ  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบอน จ.ตราด

โรงเรียนบ้านหนองบอนเป็นโรงเรียนหนึ่งในเครือข่ายโรงเรียนพัฒนาตนเอง (TSQD) กสศ.ซึ่งทำให้ผอ.จรูญได้เริ่มรู้จัก EF แล้วทำให้อยากรู้ว่า EF คืออะไร เมื่อพบว่าสถาบัน RLG มีการอบรมเรื่องนี้จึงสมัครเข้ารับอบรมพร้อมครูอนุบาล 2 คน  แล้วได้เห็นว่า EF เป็นคำตอบเรื่องการพัฒนาเด็กให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และการพัฒนาเด็กให้เต็มศักยภาพ จึงนำความรู้ EF มาถ่ายทอดให้ครูในโรงเรียน โดยใช้สื่อจากสถาบันRLG ให้ครูเรียนรู้ และมอบหมายให้รองผอ.ติดตามการดำเนินการขับเคลื่อนความรู้ EF สู่การปฏิบัติในชั้นเรียนอนุบาล...